การพัฒนาตนเอง / ปลุกพลังแห่งการสร้างความสัมพันธ์

ไม่รู้จริง อย่าเผลอพูดทั้งๆที่ไม่รู้ เดี๋ยว “เสียหมา”

Rating:

อาการ “เสียหมา” อาจจะฟังดูไม่เพราะ ซึ่งผมต้องขออภัยด้วยที่ต้องเอ่ยคำนี้ เนื่องจากเป็นคำพูดที่ตรงดีกว่า คำว่า “เสียหน้า” และผมกำลังจะบอกว่า อาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คนไม่เว้นสถานะไหนก็ตาม คุณ และผมรับประกันได้เลยว่าเคยมาแล้ว และที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได็ ก็คือ ความรู้สึกหลังการ “เสียหมา” นี่แหละครับมันเจ็บเหลือทน เสียความรู้สึก เสียความมั่นใจในตนเองยังไม่พอ อับอาย และเสียความรู้สึกต่อคนรอบข้างอีกต่างหากครับ แล้วเราจะมีวิธีการป้องกันอย่างไรล่ะ ที่จะไม่ให้เกิดอาการดังกล่าว

ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ สาเหตุ และลักษณะของอาการ “เสียหมา” ก่อนครับ การ”เสียหมา” หรือที่เรียกกันอย่างสุภาพว่า “เสียหน้า” นั้น เป็นอาการที่เกิดจากการที่ เราได้แสดงออกซึ่งคำพูด หรือพฤติกรรม ที่ไม่รู้จริงในสิ่งนั้น และทำเป็นรู้ เช่น ในการประชุม ทางผู้บังคับบํญชา หรือเพื่อนร่วมงานขอความคิดเห็นกับคุณ เกี่ยวกับ การลงโฆษณา Facebook Ad. และคุณก็ไม่ได้รู้เกี่ยวกับรายละเอียดดังกล่าวมากนัก แต่คุณก็ได้แสดงความคิดเห็น และข้อมูลออกไปเป็นวักเป็นเวร แบบผิดๆ  แต่ปรากฎว่า มีเพื่อนร่วมงานของคุณคนหนึ่งที่คลุกคลีกับการทำการตลาด ผ่าน Facebook Ad และศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี บอกว่า รายละเอียดที่คุณบอกมานั้นไม่ใช่ มันผิด  แต่คุณเกิดอาการเสียหน้า และไม่ยอมจึงได้เถียงกลับไป สุดท้ายต่างคนต่างไม่ยอมกัน ทางประธานในที่ประชุม จึงได้โทรติดต่อสอบถามไปที่เพื่อนของเขา ที่เป็นมือดี ด้าน Facebook Ad. และเป็นมืออาชีพด้านนี้. ซึ่งเมื่อฟังข้อมูลแล้ว ปรากฎว่าข้อมูลที่คุณพูด และแสดงออกมามันผิด  ถึงเวลานี้คุณพูดไม่ออก และเงียบ. นี่แหละครับคืออาการเสียหมา อับอายต่อหน้าประชาชี

อาการเสียหมา เสียหน้านี้ ดูแล้วอาจจะไม่หนักหนาสาหัสน่ะครับ. แต่ถ้าเกิดคุณเผลอไปแสดงออกต่อหน้าบุคคลสำคัญ เช่นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทคุณ. ต่อหน้าลูกค้า หรือบุคคลสำคัญของคุณล่ะจะทำอย่างไร. ความน่าเชื่อถือของคุณจะลดลงทันทีเลยครับ. บางทีความฝันหลายๆ เรื่องของคุณอาจจะพังทลายไปเลย เผลอๆ คุณอาจจะเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้อีกเลยก็ได้ เพราะจะมีทั้งฝ่ายที่ถูกต้อง และฝ่ายที่เสียหมา ฝ่ายหลังนี่แหละครับหนักสุด. ฉะนั้นผมมีวิธีที่จะควบคุมใจของเราเองไม่ให้ เผลอแสดงออก ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการดังกล่าวดังนี้ รับรองนำไปใช้ได้แน่นอน

1. ก่อนที่คุณจะเสนอความคิดเห็น ให้พูดคำว่า “หยุด” ในใจ  คำว่า หยุด จะเป็นการสะกัดกั้นการแสดงออกซึ่งความคิดของคุณ ออกสู่ภายนอก และคิดในใจว่า “รู้จริงหรือปล่าว” หากเสียงภายในของคุณบอกว่า “ไม่แน่ใจ” คุณก็เงียบ และฟังอย่างเดียวเท่านั้น เชื่อผมไม่คุ้มหรอกครับหากคุณไม่รู้จริง และพูดออกไป

2. ถึงแม้คุณจะมีความรู้ในเรื่องดังกล่าว แนะนำว่าคุณก็ไม่ควรที่จะเสนอความคิดออกไปทันที ให้คุณรอสักประมาณ 20 วินาที ให้โอกาสคนอื่นได้พูดแสดงความคิดเห็นก่อน วิธีการดังกล่าวไม่ใช้ขี้ขลาดน่ะครับอย่าเข้าใจผิด แค่เพียงรอดูเท่านั้น เพราะบางทีอาจจะมีคนที่รู้รายละเอียดนั้นมากว่าคุณ การที่คุณรีบพูดเสนอความคิดตัวเองออกไปก่อน ใช่ครับผมไม่ปฏิเสธว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องของการแสดงออก แต่หากมีคนที่รู้กว่าคุณ พูดเสริม หรือหักคำพูดคุณ. เชื่อเถิดครับ มีคนที่รอคุณพลาดอยู่. แต่ถ้าหากคุณรอจนครบ 10 – 20 วินาทีแล้ว แน่ใจได้เลยว่า เมื่อคุณได้แสดงวิสัยทัศน​์หรือความรู้ของคุณออกไป จะไม่ถูกขัดแน่นอน คุณสามารถแสดงความคิดของคุณได้อย่างเต็มที่

3. หากคุณเกิดเสียหน้า หรือ “เสียหมา” ไปแล้ว ซึ่งคนเราก็เผลอกันได้ครับ ให้คุณยอมรับความไม่รู้ หรือรู้น้อยของคุณเสีย และเอาเป็นบทเรียนในการที่คุณจะหาความรู้เกี่ยวกับ ความรู้นั้นเพิ่มเติม. ผมไม่อยากให้คุณคิดว่า คุณเสียหมากับเรื่องนั้นแล้ว คุณจะเกลียดเรื่องนั้นไปเลย ให้เอาอาการเสียหน้านั้น มาเป็นพลังในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อให้รู้จริงเกี่ยวกับเรื่องนั้น นี่แหละครับเป็นกรอบความคิดของคนที่โตแล้ว และเป็นกรอบความคิดแบบเติบโต ไม่มีใครรู้มาตั้งแต่เกิดครับ

4. ข้อสุดท้ายที่สำคัญมากที่สุดคือ “รับฟัง” ให้มากครับ ธรรมชาติสร้างมนุษย์เราให้มี 2 หู และมีเพียงแค่ 1 ปาก เพื่อให้เราฟังให้มากกว่าพูดครับ เก็บข้อมูลในเรื่องที่คนอื่นพูดในสิ่งที่เราไม่รู้ เพื่อเก็บเกี่ยวมาเป็นความรู้ให้เรา และฟังคนอื่นพูดในสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว เพื่อมาต่อยอดความคิด ที่จริงแล้ว ข้อนี้แหละครับเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการเสียหมา ของคุณได้เป็นอย่างดี

ลองนำไปปรับใช้ดูน่ะครับ แล้วสิ่งต่างๆ รอบตัว จะเปลี่ยนไป และอาการที่เรียกว่า “เสียหมา” จะไม่เกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน

Tags: ,

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*