การพัฒนาตนเอง / ปลุกพลังแห่งการสร้างความสัมพันธ์

เวลาจะเถียงใครลองทำแบบนี้ก่อนไหม จะดีขึ้นเยอะเลย

Rating:

คุณเคยเถียงใครบ้างไหม? คุณอาจจะคิดว่า มันเป็นคำถามที่ไม่น่าถามน่ะ. แต่ที่ผมถามผมนั้นผมอยากให้คุณคิดถึงผลกระทบ จากการที่คุณเถียงใครก็ตามด้วยอารมณ์ และเถียงโดยไม่มีสติยั้งคิด การเถียงคือการที่คุณไม่เห็นด้วยกับความคิดของคนอื่น และมั่นใจในตัวเอง ในจุดยืนของตัวเองอย่างเต็มที่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับของคนทุกคน ที่จะเข้าข้างตัวเอง การเถียงเป็นพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ เป็นอัตตาของคนที่แสดงออกอย่างรุนแรง จนเกิดเป็นความตึงเครียดตามมาอันกระทบต่อคนอื่น ที่แสดงความคิดเห็น และที่สำคัญคือ กระทบกับตัวคุณอย่างรุนแรงจนก่อเกิดเป็นความเครียดที่ไม่จำเป็นเลย บ่อยครั้งก็เหวี่ยงใส่คนรอบข้างเลยก็มี ทั้งๆ ที่จริงๆแล้วคุณเลือกได้น่ะ แทนที่คุณจะเลือกการ โต้เถียงก็อาจจะเลือก เป็นการแสดงออกโดยวิธีอื่น ซึ่งผมกำลังจะบอกคุณให้รู้

 

ก่อนที่ผมต้องการให้คุณทำก็คือ ก่อนที่คุณจะแสดงพฤติกรรมด้วยการโต้เถียงที่ไร้ประโยชน์ออกไป ให้คุณหายใจเข้าออก ลึกๆ และให้พยายามเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งก่อนด้วยการรับฟัง มันไม่ได้เสียหายเลยสักนิดหากคุณจะรับฟังมุมมองของอีกฝ่ายหนึ่งก่อน แต่การฟังคุณต้องฟังด้วยความตั้งใจ อย่าแสดงออกซึ่งสีหน้า การชักหน้าตาที่แสดงความไม่พอใจเด็ดขาด ให้คุณฟังด้วยความเรียบเฉยอย่างตั้งใจ และเมื่ออีกฝ่ายพูดเรียบร้อยแล้ว. แทนทีคุณนั้นจะมีการแสดงซึ่งจุดยืนของตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ให้คุณหยุดคิดดูว่า คุณจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ จากเรื่องราวดังกล่าวได้หรือไม่ด้วยการบอกกลับไปว่า ” ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยซิ วาทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้น ”  และต้องระวังไว้น่ะครับ อย่าพูดประโยคนี้ออกไป เพื่อแสดงเป็นนัยๆ ถึงการปกป้องจุดยืนของคุณเองโดยเด็ดขาด คุณต้องถามเพื่อแสดงออกถึงการเรียนรู้ มุมมอง เรื่องราว ที่ต่างออกไป. และอย่าพยายามอย่างเด็ดขาดในการตำหนิ เพื่อให้คนที่คุณพูดด้วยเห็นด้วยว่าความคิดของเขาผิด. คุณต้องปล่อยให้เขาได้รับความพึงพอใจจากการเป็นฝ่ายที่ถูก 

การที่คุณถามประโยคดังกล่าวออกไปนั้น ไม่ได้เป็นการแสดงว่าคุณพ่ายแพ้ หรืออ่อนแอปวกเปียก หรือยอมรับว่าตัวคุณเองเป็นฝ่ายผิดน่ะครับ มันเป็นเพียงแค่คุณต้องการพยายามจะหาความรู้เพิ่มเติม และพยายามเข้าใจผู้พูดอยู่ต่างหาก ตัดความคิดที่คิดว่าการยอมรับฟัง เป็นการแสดงออกถึงความพ่ายแพ้ออกจากสมองของคุณเสียตั้งแต่ตอนนี้  และการทำเช่นนี้ เป็นการใช้พลังงานที่น้อยมาก น้อยกว่าที่คุณจะโต้เถียงที่จะปกป้องจุดยืนของคุณ และไม่ต้องเครียดกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เป็นการแสดงออกในด้านบวก ที่ก่อเกิดพลังงานที่ดีๆ เกิดขึ้นกับตัวคุณเอง

เมื่อคุณเลิกโต้เถียง และพยายามเข้าใจจุดยืน ในมุมมองของคนอื่นแล้ว จะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอนก็คือ

1. คุณจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ ที่คุณอาจจะไม่เคยได้รู้มาก่อน เป็นการเปิดมุมมองของคุณให้กว้างไกล ไม่จำกัดอยู่แค่ในกรอบความคิด เป็นการพัฒนามุมอง กรอบความคิดในการเรียนรู้ และคุณจะได้รู้ว่าในโลกนี้ยังมีอะไรที่คุณไม่รู้อีกมาก และคุณจะตื่นเต้นเมื่อได้เรียนรู้มัน

2. คนที่คุณคุยด้วยจะเกิดความเคารพ ซาบซึ้ง รู้สึกดีๆ กับคุณ เนื่องจากเขาจะรู้สึกว่า คุณรับฟังเขา เคารพเขา เมื่อคุณรับฟัง เคารพเขา คุณก็จะได้สิ่งนั้นกลับมาเช่นกัน. มากกว่าที่คุณจะรีบโต้เถียงเพื่อแสดงจุดยืนของตัวเองเยอะเลยครับ  การโต้เถียงจะไม่ทำให้แต่ละฝ่ายอ่อนลง และรับฟังโดยทันที และเกือบทุกครั้งที่มีการโต้เถียงเกิดขึ้น มักจะไม่ได้จบด้วยการยอมรับ และมิตรภาพที่ดี แล้วทำไมคุณถึงจะยอมให้สัมพันธภาพต้องสิ้นสุดลงเช่นนั้นเล่า สู้ให้คุณยอมรับฟัง และเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งก่อนจะดีกว่าไหม สบายใจกว่าด้วยครับ

 การที่คุณเปิดใจรับฟัง และพยายามเข้าใจความคิดเห็นของอีกฝ่ายหนึ่งที่สนทนาด้วยก่อน เป็นการแสดงความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกแบบหนึ่ง คุณจะได้ความไว้วางใจ ได้ความเคารพ ได้เพื่อนใหม่ ได้ความรู้สึกดีๆ ซึ่งคุณจะไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้หากคุณเลือกที่จะโต้เถียง โดยเอาจุดยืนคุณเป็นที่ตั้ง เปลี่ยนการโต้เถียง เป็นความเมตตา ความเข้าใจ คุณจะรู้สึกดีขึ้นเยอะเลยครับ

Tags: , ,

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*