ทำไมฉันถึงไม่ก้าวหน้าไปไหนสักที? ทำไมพอประสานงานคุยกับใคร ใครก็ไม่ฟัง ไม่ยอมรับ? ทั้งที่ฉันมีความมั่นใจในตัวเองขนาดนี้ ผู้หลักผู้ใหญ่ถึงไม่ส่งเสริมฉัน ให้ฉันได้ก้าวหน้า?
ผมคิดว่า คนส่วนมาก รวมอาจจะรวมถึงตัวคุณด้วยอาจจะเคยคิดน้อยใจกับตนเองเช่นนี้ แต่เดี๋ยวหากผมจะบอกว่า สาเหตุที่คุณไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย ไม่มีใครยอมรับในตัวคุณเลยเนี่ย มันเกิดจากตัวคุณทั้งนั้น คุณจะว่าไงครับ เพราะการที่คุณเอาแต่โทษโน่น โทษนี่ พาลกับสิ่งแวดล้อม พาลกับคนอื่นรอบตัวเนี่ย มันเกิดจากการที่คุณถือตัวคุณเองเป็นหลัก โดยไม่คิดถึงคนอื่น หากคุณคิดถึงคนอื่น และรับฟังคนอื่นบ้าง คุณจะไม่มีคำถามข้างต้นเกิดขึ้นในหัวคุณเลย
และสิ่งที่ผมกล่าวมานั้น มันก็คือ “อีโก้” Ego นั่นเองครับ และสำหรับคนที่ยังไม่รู้จักความหมายของคำนี้เพียงพอ หรือบางคนอาจจะยิ่งกว่านั้นที่ยังไม่เคยได้ยินคำนี้เลิย ผมจะมาบอกถึงความหมายของอีโก้ กันครับ
อีโก้ (EGO) หมายถึง คนที่มีความมั่นใจในตนเองแบบผิดๆ (ซึ่งผมก็เคยเป็นมาก่อน) ที่หยิ่งยโส ไม่ฟังใคร เอาความคิดของตนเองเป็นหลัก ไม่เห็นใจใคร ไม่แคร์ว่าใครจะรู้สึก หรือได้รับผลอย่างไรจากการกระทำของตัวเอง จนลุกลามไปสู่พฤติกรรมที่น่ารังเกียจ ไปเป็นการดูถูกคนอื่น ไม่เคารพผู้อื่น เพราะคิดว่าตนเองนั้นแหละดีที่สุด
ผมไม่ได้บอกว่าคนที่มีอีโก้ จะไม่ดีไม่เสียหมดน่ะครับ คนที่ควบคุมอีโก้ของตน ให้อยู่ในระดับที่พอดี ไม่มากเกินไปก็ส่งผลประโยชน์กับคนนั้นเช่นกันครับ แต่ส่วนมากแล้ว เมื่อเรามีหน้าที่การงานที่ดีขึ้น ตำแหน่งสูงขึ้น มีทุกอย่างในชีวิตมากขึ้น มักจะโดนเจ้า อีโก้ นี่แหละเข้าครอบงำโดยเฉพาะ ผู้นำ ที่มีตำแหน่งใหญ่โตทั้งหลาย ทำให้ลูกน้องทีมงานไม่ยอมรับ เกิดความเสียหายในการทำงานเหลือคณานับได้เลยทีเดียวครับ
และ เนื่องจากการมีอีโก้ ที่มากเกินไปนี่เอง เราจะมีวิธีการบริหาร อีโก้ ในตัวของเราเองอย่างไรไม่ให้เตลิดไปมากกว่านี้ จนกระทบต่อความก้าวหน้าทุกด้านในชีวิต วันนี้ผมจึงมีลักษณะนิสัย ของคนที่มีอีโก้อยู่ในระดับที่พอดี ยอมรับได้ เป็นที่นับถือ ของลูกน้องและทีมงานมาฝากทุกท่าน ทุกข้อที่ยกตัวอย่างมา ล้วนมาจากกลุ่มตัวอย่าง จากทั่วโลก ของผู้นำ และคนทั่วไป ที่ประสบความสำเร็จในการจัดการกับอีโก้ของตนเองครับ เอาล่ะครับเรามาเริ่มกันเลย
1. เป็นคนที่ไม่มีปัญหาใดๆ เลยในการที่ตนจะพูด และยอมรับในการพูดข้อด้อย และจุดอ่อนของตนเองเลย ยอมรับว่าตนเองไม่รู้ ไม่ทราบ ขาดด้านไหน พร้อมที่จะสอบถาม รับฟัง พร้อมที่จะศึกษาในสิ่งที่ตนขาดนั้นกับผู้อื่น
2. ไม่มีปัญหา ไม่วางท่า ไม่เคอะเขินเลย ในการพูดคำว่า “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ” พูดด้วยความเต็มใจอย่างแท้จริง
3. ไม่มองว่า ความสำเร็จ เกี่ยวกับการที่มีอายุงานมากกว่า มีอายุหรือวัยวุฒิมากกว่า เรียนมามากกว่า มีประสบการณ์เยอะกว่า พร้อมส่งเสริมทุกคน ทุกคนเท่าเทียมกันในการแสดงผลงาน และแสดงออกซึ่งความคิดเห็น
4. ตื่นเต้น กระตือรือร้นอยู่เสมอ ในการรับรู้ความรู้ใหม่ ความคิดใหม่ สิ่งใหม่ๆ และพร้อมจะนำมาปรับใช้กับตนเอง และทีมงานของตนเอง ไม่ยึดติดกับความคิดเดิมๆ พร้อมปรับเปลี่ยนตามสภาวการณ์
5. กล้าที่จะขอคำแนะนำ จากผู้อื่น จากทีมงาน จากลูกน้อง โดยไม่อาย และรับฟังอย่างตั้งใจ ให้เกียรติความคิดนั้นเสมอ
6. ไม่ต้องการพิสูจน์อวดให้ใครเห็นผลงาน พิสูจน์ให้ตนเองเห็น ทุกอย่างดูที่ผลงาน ไม่ได้ดูที่ว่าใคร สนิทกับใคร
7. ยอมรับว่า ถึงจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม ทุกอย่างต้องมีข้อผิดพลาด และพร้อมที่จะนำข้อผิดพลาดมาปรับปรุง พัฒนา แก้ไข มองว่าทุกปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นคือโอกาสในการเติบโต เพื่อก้าวต่อไป
และที่คือ ลักษณะที่วัดจากสถิติ พฤติกรรม นิสัย ของคน และผู้นำทั่วโลก ที่มีการควบคุม อีโก้ ของตนได้อย่างทรงประสิทธิภาพ อาจจะมีมากกว่านี้ครับ แต่ คัดมาแค่ 7 ข้อนี้ ผมว่าก็ครอบคลุม ในการที่คุณจะนำไปปรับใช้ และนำมาดูตนเองว่า เราผิดพลาด หรือมีอีโก้ที่มากเกินไปหรือไม่ เพื่อที่คุณจะนำมาปรับปรุง พัฒนาตนเอง เพื่อความก้าวหน้าในทุกๆ ด้านในชีวิต ของคุณ อาจจะไม่ยากเกินไป เริ่มปรับ ณ บัดนี้เลยครับ
“อย่าให้อีโก้มาล่ามคุณไว้ คิดถึงผู้อื่นให้มาก มั่นใจในตนเองในระดับพอดี เมื่อนั้น ความก้าวหน้าทุกด้านจะเป็นของคุณ”