ชีวิตของคุณถูกความคาดหวังของคนอื่นควบคุมมาเท่าไหร่แล้ว? ขอโทษจริงๆ ครับที่ผมต้องถามตรงๆ เพราะผมก็เคยเจอ ปรากฎการณ์ความคาดหวังของอื่น จนมันเข้ามาควบคุมชีวิตของผม ให้เป็นไปแบบนั้นจริงๆ และ ปรากฎการณ์ความคาดหวังของคนอื่น ที่มีต่อคุณนี้ จะเป็นการสร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้กลายเป็นความจริงอีกด้วย เริ่มน่ากลัวแล้วใช่ไหมครับ วันนี้ผมจะให้คุณได้รู้เท่าทันของ ปรากฎการณ์นี้ก่อนจะสายเกินไปครับ
เคยมีนักจิตวิทยาได้ทดลองปรากฏการณ์ความคาดหวัง ดังนี้ครับ คือ นักจิตวิทยาได้ขอความร่วมมือกับ บริษัท บริษัทหนึ่งโดยให้แบ่งทีมขายออกเป็น 2 ทีม โดยแต่ละทีมจะมีผู้จัดการฝ่ายขายทีมละ 1 คนที่คอยควมคุมทีมงานพนักงานขายของเขา โดยกลุ่มแรกผมขอใช้คำว่า กลุ่ม A แล้วกันน่ะครับ โดยกลุ่ม A ได้รับการบอกจากกรรมการบริษัทว่า ทีมของเขามี ยอดนักขาย และเป็นสุดยอดนักขายที่เก่งมากที่สุดในบริษัท เข้ามาร่วมทีม ส่วนอีกกลุ่ม ผมขอใช้คำว่า กลุ่ม B ได้รับการบอกจากบริษัทว่า ทีมของเขา มียอดนักขาย ที่เป็นนักขายระดับกลางๆ เท่านั้น ไม่ได้มีความพิเศษอะไรเลย ผมจะให้คุณทายครับว่า อีก 1 เดือนนับจากนี้ ทีมไหนจะมียอดขายที่สุดยอดที่สุด
แน่นอนครับ เป็นทีม A จากการที่กรรมการบริษัทบอกว่าทีมของเขานั้น ประกอบไปด้วยสุดยอดนักขายที่เก่งที่สุดในบริษัท ทำให้ผู้จัดการฝ่ายขาย พลักดัน ให้กำลังใจ และเชื่อมั่นในทีมงาน รวมถึงมีความคาดหวังอย่างล้นเหลือ ว่ายอดขายจะต้องดีที่สุด เด่นที่สุดอย่างแน่นอน ส่วนทีม B นั้นเมื่อผ่านไป 1 เดือนยอดขายห่างจากทีม A ถึง 3 เท่าเนื่องจากเขาได้รับการบอกกล่าวว่า ทีมของเขาประกอบไปด้วย นักขายในระดับกลางๆ ไม่ได้เด่นวิเศษอะไรเลย จึงทำให้เพียงแค่มีการกระจายงานใหักับ พนักงานขายตามพื้นที่การขายเท่านั้น โดยไม่ได้มีการพลักดัน หรือสร้างแรงจูงใจแต่ประการใด
แต่คุณรู้ไหมว่า พนักงานขายทีม A นั้น ไม่ได้เก่งกาจ หรือมียอดขายที่ดีเด่นไปกว่า ทีม B เลย ผลงานที่ผ่านมาก่อนที่จะทดลองเทียบเท่ากัน ผลงานเท่ากัน แต่ด้วยว่า มีการปลูกฝัง ” ปรากฎการณ์ความคาดหวัง” ใหม่ๆ เข้าไปในความคิดของผู้จัดการฝ่ายขาย ทำให้ผู้จัดการฝ่ายขายแต่ละคนนั้นคาดหวังในผลงานของพนักงานขาย ในความดูแลของตนได้ไม่เท่ากันอย่างเห็นได้อย่างชัดเจน
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับการทดลองที่ผมได้บอกไป แล้วคุณล่ะครับ เคยโดน ความคาดหวังของคนอื่นๆ มากำหนดตัวตนของคุณหรือไม่ ปรากฎการณ์นี้เรียกว่า ” ปรากฎการณ์ความคาดหวังสร้างความจริง” ครับ มันน่ากลัวมาก ผมว่าทุกๆ คนเกือบๆ 90% ต้องเคยโดนมาแล้วแน่ๆ ไม่ว่าจะมาจากครอบครัวคุณ เช่นพ่อ แม่ ผู้บังคับบัญชา จากคนรัก หรือคนที่มีอิทธิพลในชีิวิตคุณ คุณสังเกตุตัวคุณให้ดีน่ะครับว่า ที่คุณเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ มันเกิดจากการเข้าควบคุมจากความคาดหวังของคนอื่นหรือไม่
ผมจะบอกตรงนี้เลยครับว่า ความเชื่อของคุณสำคัญที่สุด เมื่อใดที่คุณเชื่อว่าคุณสามารถเป็นดีกว่านี้ได้ เก่งกว่านี้ได้ และมั่งคั่งกว่านี้ได้ คุณก็จะเป็นไปตามนั้น แต่เมื่อได้มีผู้หวังดีมาบอกว่า ตอนนี้ไม่ใช้เวลาของคุณ คุณยังเป็นแบบนีั้น แบบนี้ไม่ได้ แล้วคุณก็เชื่อและ หวังให้เป็นแบบนั้น แล้วเป็นลูกตามเขาตลอดล่ะก็ คุณอย่าโทษใคร อย่าโทษคนที่บอกความคาดหวังกับคุณ คุณต้องโทษตัวเอง ที่คุณนำความคาดหวังที่ผู้อื่นบอกคุณนั้นมาคิด จนเป็นความจริงในชีวิตคุณ
คนไม่เหมือนกันครับ มีแนวทางความสำเร็จไม่เหมือนกัน ไม่มีใครที่จะบังคับคุณได้ว่าคุณต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้น่ะถึงจะสำเร็จ คุณเท่านั้น ความเชื่อของคุณเท่านั้น เป็นสิ่งที่จะกำหนดความสำเร็จของชีวิตคุณเอง ฉะนั้นจงวางความคาดหวังของคนอื่น แล้วเดินทางตามความเชื่อของตน สิ่งใดที่มีคนมาบอกคุณว่า คุณเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้ คุณต้องใช้สติพิจารณาตนว่า เป็นแบบนั้นหรือไม่ ได้รับแบบนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ หรือถ้าไม่รู้ จงเชื่อไว้ก่อนว่าคุณทำได้ และได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ เมื่อนั้นโลกก็จะตอบโจทย์ชีวิตคุณอย่างแน่นอน
” ฉะนั้นโปรดจงเดินทางตามความเชื่อของคุณ อย่าเดินตามความคาดหวังของผู้อื่น ชีวิตเป็นของคุณ จงเชื่อในสิ่งที่คุณมี ไม่ใช่เชื่อในสิ่งที่ผู้อื่นต้องการให้คุณเป็น ”
