การพัฒนาตนเอง

19 นิสัยที่คนไม่ประสบความสำเร็จเขาทำกัน…จงหลีกเลี่ยงเดี๋ยวนี้

Rating:

คุณ…เป็นคนหนึ่งหรือปล่าวที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต  แต่ก็ไม่สำเร็จสักที  แถมยังเครียดกว่าเดิม แต่คนประสบความสำเร็จเขากลับไม่เครียด มีชีวิตที่สบายทั้งกายและใจ วันนี้ผมมี 19 นิสัยที่คนไม่ประสบความสำเร็จเขาทำกัน อ่านแล้วย้อนกลับมามองที่ตัวคุณ  หากมีนิสัยอะไรตรงกับคุณให้ปรับเปลี่ยนโดยด่วน

man_1585803c

1. คิดย้ำ ๆ ในสิ่งที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
คนที่อยู่ในโหมดศาลาคนเศร้ามักจะคิดย้อนไปถึงเรื่องที่เคยทำพลาดไปอยู่ตลอดเวลา และจะบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่า “รู้งี้ทำแบบนี้ดีกว่า”  ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเรื่องมันแล้วไปแล้ว  เอากลับมาคิดก็แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี สิ่งที่ควรทำก็คือ ถ้ารู้ตัวว่าทำพลาดอะไรไป คราวหน้าก็อย่าผิดซ้ำอีก
 
2. ท้อแท้กับอุปสรรค
พลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราไม่ย่อท้อต่อเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต ซึ่งเมื่อไรที่พลังใจถดถอย เพียงแค่อุปสรรคนิดหน่อยก็พาลทำให้รู้สึกท้อแท้ขึ้นมาซะดื้อ ๆ เลย ใครที่มักเป็นแบบนี้ขอแนะนำว่า หาเวลาผ่อนคลายตัวเองดูสักนิด เมื่ออารมณ์ดีขึ้นแล้วก็จะมีพลังฮึดสู้อีกครั้ง  
 
3. กดดันตัวเอง
การตั้งเป้าหมายในชีวิตเป็นเรื่องดี แต่ถ้ากดดันตัวเองมากเกินไปคุณก็จะใช้ชีวิตแบบเครียด ๆ  ดังนั้นลองหันมาวางแผนระยะสั้นกับเรื่องเล็ก ๆ สักเรื่องหนึ่งก่อน  เช่น ปีหน้าจะต้องมีเงินเก็บมากขึ้น หรือ ต้องเคลียร์หนี้สินให้หมดภายในสองปี เป็นต้น การวางแผนระยะสั้นแบบนี้เป็นการกระตุ้นให้คุณอยากพัฒนาตัวเองเพื่อทำให้สำเร็จ แทนการกดดันตัวเองว่าต้องทำให้ได้   
 
4. ไม่เคยออกกำลังกาย
ไม่แปลกเลยถ้าคนที่มีเรื่องเครียดในชีวิตเยอะมักจะสุขภาพไม่ดีตามไปด้วย เพราะมัวเอาเวลาไปคิดมากนั่นเอง ทั้งที่ความจริงแล้วการออกกำลังกายก็ช่วยให้เราหายเครียดได้เหมือนกัน ดังนั้น หากวันไหนรู้สึกนอยด์ก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินเล่นชิล ๆ ที่สวนสาธารณะดู อารมณ์จะได้ดีขึ้น   
 
5. จมอยู่กับความผิดหวัง  
เมื่อไรที่เรากล้าตั้งความหวัง เราก็ต้องยอมรับกับความผิดหวังให้ได้ด้วย และความผิดหวังนี่เองที่ทำให้คนจมอยู่กับความทุกข์มานักต่อนักแล้ว ดังนั้นทุกครั้งที่เรากำลังคาดหวังกับอะไรอยู่ก็ขอให้คิดไว้เสมอด้วยว่า อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
 
6. กินจุบจิบโดยไม่รู้ตัว
หลายคนเวลาเครียดมักจะหาอะไรกินแก้กลุ้มได้ทั้งวัน ซึ่งการกินนี่แหละที่จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาไม่รู้ตัวเลย พอรู้สึกอ้วนก็หงุดหงิดตัวเองอีก  ดังนั้นถ้าวันไหนรู้สึกตัวว่ากำลังอยู่ในฟีลหม่นหมองจริง ๆ  ขอแนะนำว่าให้เดินไปซื้อของที่มีประโยชน์มากินดู รสชาติความอร่อยนี่แหละจะทำให้เราสดใสขึ้น  อีกทั้งเราก็ไม่ต้องห่วงว่าอ้วนด้วย   

7. ไม่ยอมหลับยอมนอน 
คนที่มีเรื่องในใจมักจะนอนไม่หลับในตอนกลางคืน พอตื่นเช้ามาก็รู้สึกเพลีย ตาจะปิดซะให้ได้ พาลทำให้หงุดหงิดอยากนอนตลอดทั้งวัน  ดังนั้นไม่ว่าในแต่ละวันคุณจะมีเรื่องให้เครียดมากเท่าไร กลับถึงบ้านแล้วก็ขอให้พักเอาไว้ก่อน แล้วรีบไปอาบน้ำและเข้านอน เมื่อตื่นขึ้นในวันใหม่คุณอาจพบว่า เรื่องแย่ ๆ เมื่อวานก็ไม่เห็นจะน่าเครียดตรงไหน  
 
8. คิดว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมั่นใจในข้อดีของตัวเอง และมักจะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีพอ ใครที่กำลังเป็นแบบนี้อยู่ขอแนะนำเลยว่าให้คิดว่าตัวเองก็มีดีไม่แพ้คนอื่นเหมือนกัน ซึ่งในข้อดีของเรา คนอื่นก็อาจไม่มีเช่นกัน
 
9. อินกับโลกโซเชียลมีเดียมากไป
โซเชียลมีเดียช่วยสร้างความบันเทิงให้เราก็จริง แต่คงไม่บันเทิงแน่ ๆ ถ้าเราดันไปพึ่งพาในเวลาที่ผิด โดยเฉพาะตอนอยู่ในอารมณ์เปราะบาง เพราะเมื่อเวลาเห็นโพสต์ของใครต่อใครเราก็จะเก็บเอามาคิดมากได้ทั้งนั้น ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่ากำลังอารมณ์ไม่ดีก็อยู่ให้ห่างจากโซเชียลมีเดียสักพักหนึ่งก่อนเถอะ
 
10. ไม่ยอมออกจาก Comfort Zone
‘Comfort Zone’ ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายก็คือความสบายใจนั่นเอง หลายคนเลือกที่จะอยู่กับสิ่งที่คุ้นเคยทั้งที่มันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตขยับไปไหน เช่น ทำงานสบายแต่ได้เงินเดือนนิดเดียว ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นเงินเดือนสูงตามภาระหน้าที่ ดังนั้นอย่ากลัวที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะความกลัวไม่เคยทำให้ประสบความสำเร็จ  
 
11. แคร์คนอื่นมากกว่าตัวเอง
คนบางคนก็กังวลมากเกินไปว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรา ซึ่งจะต้องแคร์ทำไมในเมื่อเราไม่สามารถควบคุมความคิดใครได้  ดังนั้นหันมาแคร์ตัวเองดีกว่าว่าในแต่ละวันเรามีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นมากพอแล้วหรือยัง
 
12. ชอบฟังเรื่องแย่ ๆ ของคนอื่น  
แปลกแต่จริงที่เวลาเรารู้สึกเสียเซลฟ์กับเรื่องบางเรื่อง พอได้หยิบยกเรื่องแย่ ๆ ของคนอื่นมาพูดกลับทำให้รู้สึกดีขึ้นมาเลย สาเหตุก็เป็นเพราะคุณกำลังรู้สึกได้เปรียบเมื่อรู้ว่ายังมีคนอื่นแย่กว่าคุณอีก ทางที่ดีควรหาความบันเทิงอื่นมาทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นจะดีกว่า เช่น ฟังเพลง ดูหนังเรื่องโปรด หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ เป็นต้น 
 
13. ฝังตัวเองไว้กับงาน
เรื่องงานเป็นอะไรที่ควรเครียดก็จริง เพราะถ้าไม่มีงาน เราก็ไม่มีเงินใช่ไหมล่ะ แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าต้องผูกติดกับงานจนไม่มีเวลาไปเติมเต็มชีวิตอีกหลายด้านที่รอให้เราเข้าไปเรียนรู้ ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่างานยุ่งจนปลีกตัวไปไหนไม่ได้ ลองจัดลำดับความสำคัญของงานซะใหม่ แล้วเคลียร์ให้ได้ตามลำดับ
 
14. ไม่อยากออกไปไหน  
ถ้ากลุ่มเพื่อนสนิทชวนไปเที่ยวทีไรแต่คุณกลับบ่ายเบี่ยงไม่อยากไป หลายครั้งเข้าก็น่าคิดทีเดียวว่าคุณกำลังไม่แฮปปี้กับชีวิตอยู่หรือเปล่า เพราะอาการมันฟ้องว่าอยากคิดอะไรเงียบ ๆ คนเดียว ทางที่ดีควรออกไปตามนัดบ้างเผื่อว่าเพื่อนอาจให้คำปรึกษาอะไรดี ๆ ก็ได้
 
15. ไม่เคยตามใจตัวเอง
บางคนถึงขนาดต้องวางแผนความสุขให้ตัวเองกันเลยทีเดียวว่า เดือนนี้งดเที่ยวเพราะค่าใช้จ่ายเยอะแล้ว ซึ่งเราจะต้องจำกัดความสุขตัวเองทำไมว่าเดือนนี้ต้องสุขเท่านี้พอ สุขมากกว่านี้ไม่ได้ ดังนั้น หากค่าใช้จ่ายไม่ตึงจนเกินไปก็ออกไปให้รางวัลกับตัวเองบ้างอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เช่น ดูหนัง เสริมสวย ทำสปา ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว เป็นต้น  
 
16. กลัวการเปลี่ยนแปลง
เวลาที่ชีวิตมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้น หลายคนมักจะลังเลว่าเราตัดสินใจถูกทางไหมนะ ซึ่งความจริงแล้วการเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ถือเป็นเรื่องน่ายินดีซะอีกที่จะทำให้เราได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ของชีวิต
 
17. ฝังใจกับเรื่องแย่ๆ   
ใครบางคนอาจมีเหตุการณ์จำฝังใจมาก่อน และยากที่จะลืมเลือน อาการแบบนี้ไม่ทำให้คุณมีความสุขในชีวิตแน่นอน ทางที่ดีคุณควรปล่อยวางบ้าง และให้อภัยกับคนที่เคยทำร้ายจิตใจคุณ เพียงแค่นี้ชีวิตก็สุขขึ้นแล้ว
 
18. ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่มีเป้าหมาย
ดูเผิน ๆ เหมือนว่าชีวิตอย่างนี้จะมีความสุขดี ไม่ต้องกดดันให้ชีวิตประสบความสำเร็จเหมือนใครเขา แต่ความจริงแล้วอาการนี้กำลังฟ้องว่าชีวิตกำลังลุ่ม ๆ ดอน ๆ มากกว่า เพราะถ้าเมื่อชีวิตลงตัวดีแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องวางแผนชีวิตตัวเองกันทั้งนั้น
 
19. คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง   
คนที่มีปัญหาในชีวิตมักมีพฤติกรรมเห็นแก่ตัว ไม่ค่อยหยิบยื่นอะไรให้ใครก่อน ส่วนหนึ่งเพราะคิดว่าการช่วยเหลือคนอื่นอาจจะนำความลำบากมาให้เราทีหลัง ซึ่งความจริงแล้วการหยิบยื่นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับผู้อื่นบ้าง เราก็ไม่ขาดทุนหรอกน่า 

ธวัชชัย สุวรรณสาร

นักพัฒนาศักยภาพบุคคล

086-6593823

Tags: , , , , , , , ,

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*