การ ” เลือก “ เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมที่คุณจะใช้ในฐานะของมนุษย์ หรือในฐานะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “คน”การเลือก ทำให้คุณต่างจาก “สัตว์” การเลือกเป็นสิ่งที่ที่จะกำหนดบทบาทความสำเร็จของคุณ ในฐานะมนุษย์ เดี๋ยวผมจะบอกว่าทำไมการ ” เลือก ” จึงทำให้คุณแตกต่างจากสัตว์ และเป็นสิ่งที่ีชี้ชะตาชีวิตคุณ ว่าคุณจะมีชีวิตแบบไหน สำเร็จแบบไหน จะมั่งคั่งแบบไหน และที่สำคัญ จะทำให้คุณเป็นผู้นำแบบไหน
พูดถึง “สัตว์” คุณอาจจะคิดถึงสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ ที่พูดไม่ได้ เช่น สุนัข แมว ไก่ หมู สิงห์โต เป็นต้น สัตว์เหล่านี้จะใช้เพียงสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เมื่อได้รับสิ่งใดเข้ามากระทบ ผมจะเรียกว่า สิ่งเร้า หรือแรงกระตุ้น ก็แล้วกันน่ะครับ หากสัตว์ได้รับสิ่งเร้า สิ่งกระตุ้นมากระทบ สัตว์จะตอบสนองทันทีด้วยสัญชาตญาณ เช่น สิงห์โต หากมีสิงห์โตตัวอื่นๆ เข้ามารุกราน ก็จะสนองตอบ หรือตอบโต้ด้วยการใช้คมเขี้ยวของมันกัด หรือใช้ขาอันทรงพลังตปบทันที โดยไม่รีรอ ซึ่งเป็นธรรมชาติ และสัญชาตญาณการป้องกันตัวของมันเอง
แต่มนุษย์ ซึ่งถือว่า เป็น “สัตว์ประเสริฐ” นั้น จะแตกต่างจาก “สัตว์” ตรงที่เมื่อมีสิ่งกระตุ้น มากระทบร่างกายหรือจิตใจแล้ว จะสามารถเลือกได้ว่าจะตอบโต้ในลักษณะไหน ผมยกตัวอย่างแล้วกันครับ หากมีใครก็ตามมาใส่ร้ายคุณ เสียๆ หายๆ แน่นอนคุณต้องโมโหแน่ๆ แต่คุณสามารถเลือกได้ 2 ทางเลือกคือ 1. เลือกที่จะดุด่า ประชด เพื่อความสะใจ หรืออาจจะมีการลงไม้ ลงมือกัน และทางเลือกที่ 2 คือ เลือกที่ยิ้ม ไม่ถือสา เขาว่าก็ว่าไป เพราะมันไม่ใช่ความจริง หากคุณเลือกทางเลือกที่ 1 เป็นการตอบโต้โดยใช้อารมณ์เป็นหลัก เป็นทางเลือกที่คุณแทบจะไม่ได้ใช้สติปัญญา และเหตุผลเลย ใช้กำลังและสัญชาตญาณดิบๆ ในตัวล้วน พูดง่ายๆ ตรงๆ ก็คือคุณกำลังใช้ สัญชาตญาณของสัตว์ เพื่อการเอาตัวรอดเข้ามาใช้ในการตัดสินปัญหา ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ การกระทำ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เครียด เพื่อนๆ ในสังคมของคุณจะไม่ค่อยมาคบหรือคุยด้วย
แต่หากคุณเลือกทางเลือกที่ 2 เป็นทางเลือกอันชอบธรรมของคุณ ในฐานะ “มนุษย์” ที่คุณจะใช้เหตุผล ปัญญาเข้าแก้ไขปัญหา ซึ่งทางเลือกที่ 2 เป็นทางเลือกที่ “สัตว์” ไม่ค่อยมีเอาเสียเลย โดยทางเลือกที่ 2 เป็นทางเลือกที่ทำให้คนทั่วๆไปในสังคมยกย่องในฐานะปัญญาชน เป็นคุณสมบัติของผู้นำที่น่ายกย่อง เป็นทางเลือกที่จะนำสันติสุข ความสุขมาสู่คุณในฐานะมนุษย์ในโลกนี้
แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธน่ะครับว่า การเลือกที่จะใช้ทางเลือกที่ 2 ในขณะที่มีอารมณ์อยู๋นั้นเป็นเรื่องยาก นี่แหละครับความเป็นผู้นำ ผู้นำคือผู้ที่อยู่เหนือ อารมณ์ด้านลบใดๆ ผู้นำคือผู้ที่สุขุมเยือกเย็น โดยคุณสามารถที่จะควบคุมความคิด จิตใจ การกระทำของคุณได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้ง่ายๆ
1. เมื่อคุณได้รับแรงกระตุ้น สิ่งเร้าด้านลบที่ทำให้คุณเกิดอารมณ์ขึ้น ให้คุณกำหนดลมหายใจ เข้า และออก ช้าๆ ลึกๆ
การกำหนดลมหายใจ ก็ถือว่าเป็นสิ่งทีธรรมชาติมอบให้กับมนุษย์เช่นกัน การกำหนดลมใจเข้า และออกช้าๆ จะทำให้คุณได้รับ ออกซิเจน ได้อย่างเต็มที่ ได้เต็มปอด เม็ดเลือดจะแข็งแรง และทำให้เกิดภูมิต้านทานแก่ร่างกาย เมื่อภูมิต้านทางแข็งแรง หากมีสิ่งกระตุ้นมากระทบ คุณจะใช้เหตุผลมากขึ้น มีสติกลับคืนมา จนเกิดเป็นความผ่อนคลาย เมื่อร่างกายคุณแข็งแรง คุณก็จะสามารถนำจิตใจของคุณ ให้ตอบสนองในด้านบวกได้มากขึ้น
2. ฝึกสมาธิ โดยการนั่งสมาธิอย่างน้อย 5 นาทีต่อวัน
การสั่งสมาธิ เป็นการฝึกจิตอย่างหนึ่ง ซึ่งการสั่งสมาธิ การสวดมนต์ และการภาวนานั้น มนุษย์เท่านั้นที่จะสามารถทำได้ สัตว์ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ทำ ดังนั้นคุณในฐานะที่ได้รับเกียรติสูงสุดในฐานะที่เกิดเป็นมนุษย์ คุณจึงต้องฝึกจิต ฝึกสมาธิ ด้วยการนั่งสมาธิ อย่างน้อย 5 นาทีต่อวัน การกำหนดสมาธิเป็นการ Focus ไปที่การกำหนดลมหายใจเข้าออก กำหนดสติให้คิดได้ทันต่อจิตใต้สำนึก เมื่อมีแรงกระตุ้น เข้ามากระทบร่างกาย และจิตใจ จะทำให้มีสติยั้งคิด เกิดการไตร่ตรองมากขึ้น หากคุณไม่เชื่อผมท้าให้คุณฝึกนั่งสมาธิ เพียง 5 นาทีต่อวัน ติดต่อกัน 1 เดือน ผมว่าแค่ 5 นาทีต่อวันคุณทำได้ หากคุณทำได้ดังนี้ เตรียมสั่งเกตสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ จิตใจ ของคุณได้เลย คุณจะแสดงออกด้วยความมีเหตุผลมากขึ้น ก่อนที่จะตอบสนองออกไป
ฉะนั้นคุณในฐานะมนุยย์ ผู้ประเสริฐ หากมีสิ่งกระตุ้นสิ่งเร้าด้านลบเข้ามาก คุณใช้สติในการเลือกว่าคุณจะตอบสนองอย่างไร การเลือกที่ถูกต้องด้วยความมีสติ จะทำให้คุณเป็นสุดยอดผู้นำได้ อย่าใช้สัญชาตญาณของสัตว์ เข้ามาใช้ในการตัดสินปัญหาเลยครับ เพราะทุกวันนี้ คนทั่วๆไป ส่วนมากตอนนี้จะใช้สัญชาตญาณที่ดิบ ดุเดือด เข้าตัดสินปัญญา จึงทำให้โลกยุ่งเหยิงมากมาย
ฉะนั้น เมื่อเกิดอารมณ์ด้านลบขึ้นมาก จงใช้สติคิดว่า คุณกำลังอยู่ในอารมณ์แบบใด เพื่อที่คุณจะสามารถตอบสนอง ต่อสิ่งเร้านั้นได้ ในฐานะที่คุณเป็นสุดยอดผู้นำที่ได้รับการยกย่องในทุกๆ ด้าน
