ความเครียด ความโกรธ เป็นสิ่งที่ควงคู่กับมนุษย์มานานมากตั้งแต่กำเนิดมนุษย์บนโลกนี้ ความเครียดเป็นบ่อเกิดของสิ่งลบ และสิ่งที่ไม่ดีทุกอย่าง ความเครียดทำให้เราทำในสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ฉะนั้นคนที่จะเป็นผู้นำได้จะต้องมีการตั้งสติให้ได้ ในขณะที่เกิดความเครียดเกิดขึ้น คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดนั้นมีคุณสมบัติของการควบคุมอารมณ์ ไม่ให้ทำอะไรที่ไม่ควรทำในขณะที่ตนกำลังเครียดอยู่นั่นเอง
คุณสังเกตุไหมความเครียดมักจะเกิดขึ้นในขณะที่คุณไม่พร้อมที่จะรับมือเสียเลย จงจำไว้เลยว่าหากคุณตอบสนองความเครียดของคุณด้วยการ โกรธ โมโห ดุด่า กระแทกอารมณ์ใส่ผู้อื่น นั่นเป็นอาการที่แสดงว่าคุณพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ของตนเอง สิ่งที่ตามมาก็คืออนาคต และความสัมพันธ์ที่ดับวูบลง
ดังนั้นการกระทำแรกที่คุณต้องกระทำ คือ ” คุณต้องควบคุมตัวของคุณเองให้ได้เสียก่อน ” เมื่อคุณควบคุมตัวคุณเองได้ เมื่อนั้นแหละคุณก็สามารถควบคุมการ แสดงออกซึ่งความเครียดที่ไม่เหมาะสมได้
ความเครียด เราจะสังเกตุได้อย่างไรว่า คุณนั้นได้ถูกคุกคามจากความเครียดแล้ว คุณสังเกตุได้ง่ายๆ จากลมหายใจของคุณที่หายใจถี่ขึ้น มีความโกรธเข้าแทรกแซงอารมณ์ การฟังผู้อื่นจะน้อยลง และสิ่งเหล่านี้จะประกอบกันจนทำให้คุณ ระบายความเครียดออกมาเป็นพฤติกรรมทางลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตบโต๊ะ การกระแทกสิ่งของ การพูดจาที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่คอยบั่นทอนศักยภาพ และอนาคตของคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ผมมีวิธีการปรับอารมณ์เครียดของคุณเพื่อสู่จุดสมดุลทางอารมณ์ให้เร็วที่สุด ซึ่งผมรับรองว่าหากคุณนำไปปรับใช้กับตนเอง แล้วคุณจะมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
วิธีการปรับความเครียด เข้าสู่ความสมดุลทางอารมณ์และจิตใจ
1. หากคุณเกิดความเครียด ให้คุณหยุดใช้วาจาไม่คุยกับใครเลย ใช้สมาธิรับรู้อารมณ์ของตนเอง ว่าตนมีอารมณ์อย่างไร แล้วทำการหลับตาลง สงบจิต สงบใจ เหตุที่ต้องให้หลับตาก็คือ เพื่อไม่ให้คุณเห็นสภาพแวดล้อมที่เป็นบ่อเกิดแห่งความเครียด เพราะหากคุณลืมตา คุณก็จะเป็นแต่ภาพเดิมๆ ที่ทำให้เกิดความเครียด ฉะนั้นหลับตาสักครู่ก่อนจะดีกว่าครับ
2. เมื่อคุณรับรู้อารมณ์ของคุณ ความเครียดของคุณแล้วให้สูดลมหายในเข้าลึกๆ ออกยาวๆ และพูดคำว่า “ผ่อนคลาย” ในใจอย่างช้าๆ ค่อยๆทำ ร่างกายคุณจะรู้สึกเบาๆ ความเครียดจะค่อยๆ ลดลง มีสติเข้ามาแทนที่ วิธีการดังกล่าวเป็นการผ่อนคลายจิตให้เกิดความสมดุลภายในจิตใจ และความคิด
3. ทำ 2 ข้อแรกจนกว่าอารมณ์ของคุณจะเข้าสู่ภาวะปกติ เกิดความร่มเย็นในจิตใจ และให้คิดในเรื่องราวที่ประทับใจคุณ เรื่องราวความสำเร็จ เรื่องราวทางบวกที่คุณ เพราะเรื่องราวเหล่านี้หล่ะจะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณมีกำลัง มีแรงใจ ให้สู้ต่อไป
4. พิจารณาดูว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อเป็นการลดความเสียหายที่เกิดขึ้น และคุณสามารถใช้ความเครียด หรืออารมณ์ทางลบที่เกิดขึ้นให้มาเป็นประโยชน์ในแต่ละสถานการณ์อย่างไร และเกิดประโยชน์มากที่สุด
5. ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ และลงมือทำตามสิ่งที่คุณศึกษามา ให้ทำเป็นประจำ จนให้เป็นนิสัย เมื่อนั้นแหละครับ อนาคต และสิ่งต่างๆ จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ธวัชชัย สุวรรณสาร
วิทยากร และโค้ขด้านการพัฒนาศักยภาพบุคคล
086-6593823
