” ฉันเป็นผู้นำ ฉันต้องรู้ทุกเรื่อง ทุกอย่างในงาน “
คุณอาจจะคิดว่า ความเป็นผู้นำนั้น คือผู้ที่ต้องรู้ทุกอย่างหมดทุกเรื่อง ต้องเป็น Expert ในทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องรู้มากกว่าพนักงานและทีมงาน เพราะหากไม่รู้เรื่องบางอย่าง หรือยอมรับว่าตนไม่รู้ิเรื่องอะไร ก็เท่ากับแสดงให้เห็นจุดอ่อนของตนเอง โอกาสที่คนอื่นจะเลื่อยขาเก้าอี้นั้น ก็อาจจะเป็นไปได้สูง
หากคุณต้องการหลุดพ้นจาก ภาวะผู้นำ ที่ยึดติดในตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งถือเป็นภาวะผู้นำที่ล้มเหลว แล้วล่ะก็ คุณต้องเปลี่ยนแนวความคิดแบบนี้เสียทีครับ
ผู้นำ ที่พยายามรู้ทุกเรื่องไปเสียหมด เวลาพนักงานหรือทีมงานทำอะไร ก็คอยสอนเขาเสียหมด รู้ทันเขาไปเสียหมด และผู้นำก็รู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ตนเองรู้มากกว่าลูกน้อง และตามลูกน้องทันไปเสียทุกเรื่อง คุณรู้ถึงความรู้สึกของทีมงาน หรือพนักงานที่คุณกระทำพฤติกรรมดังกล่าวกับเขาหรือไม่ ว่าเขารู้สึกอย่างไร ผมจะบอกให้ครับ เขาก็จะรู้สึกเบื่อ โดนกดดัน ทำงานด้วยความจำใจ และไม่กล้าแม้แต่จะเสนอความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาให้กับคุณ เมื่อพนักงานหรือทีมงานกดดันหรือไม่พอใจมากๆ เขาอาจจะคิดในใจว่า ” ในเมื่อเขารู้ถึงงานทุกๆ เรื่องอยู่แล้วทำไมเขาถึงไม่ทำเสียเอง ให้พวกเราทำทำไม “
จนอาจจะเป็นบ่อเกิดของปัญหาพนักงาน เข้า ออกบ่อยครั้ง ย้ายแผนกบ่อยครั้ง
ฉะนั้นสิ่งเดียวที่คุณจะทำได้ก็คือ ” คุณต้องหัดโง่เสียบ้าง ” อาจจะดูแรงไปหน่อยน่ะครับแต่เป็นเรื่องจริงหากคุณต้องการเรียกความสามารถของทีมงานคุณออกมาก
งานของผู้นำที่มี ภาวะผู้นำ ไม่ใช่การรู้ทุกอย่างครับ หากแต่เป็นการดึงคนที่รู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้เข้ามาทำงานให้ต่างหาก ผู้นำที่รู้ทุกสิ่งอยู่คนเดียว ย่อมไม่ฉลาดเท่ากับทีมงานทุกๆ คนรวมกัน และช่วยกันคิดในแต่ละงาน
เลิกพฤติกรรมรู้ทุกเรื่อง เลิกเรียกคนมารวมกันและฟังคำตอบจากคุณ >>>>>> เปลี่ยนเป็นการขอให้ทีมงาน มาช่วยคนหาคำตอบให้ ฟังความคิดเห็นและแนวทางของเขา วิธีนี้จะทำให้ผู้นำมีความเป็นตัวของตนเอง ไม่ต้องคอยเสแสร้งว่าตัวเองรู้ดี รู้มาก
วิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถทำให้ก่อเกิดความคิดร่วมกันในทีมงาน คุณจะได้แนวทางการทำงานหลากหลาย และที่สำคัญไม่ต้องปวดหัว เพราะมีทีมงานหรือพนักงานช่วยกันคิด คุณจะไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป
ธวัชชัย สุวรรณสาร
โค้ชปลุกศักยภาพบุคคลสู่ความสำเร็จ
081-1689081
Email : coachtawatchai@gmail.com