การพัฒนาตนเอง / ปลุกพลังแห่งการสร้างความสัมพันธ์

ถึงคุณทำงานหนักแทบตาย แต่คุณไม่ได้ทำสิ่งนี้ ก็ไม่ต้องก้าวหน้าไปไหน

Rating:

“ทำงานหนักแทบตาย ทำไมถึงไม่ก้าวหน้าซักที “  แน่นอนคุณเคยบ่นประโยคนี้บ้างไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะพนักงานทั้งหลายในทุกๆ องค์กร ที่จะมุ่งเป้าหมายในการทำงานหนัก เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในอาชีพการงาน และคิดเพียงอย่างเดียวว่า หากต้องการก้าวหน้า ไปสู่ตำแหน่งสูงๆ ใหญ่โต จะต้องทำงานอย่างหนักเท่านั้น โดยไม่สนเรื่องอื่นเลย

ผมจะบอกว่า ” คุณคิดผิดโคตรๆ “ เลยครับ

แล้วคุณเคยคิดหรือไม่ว่า  อีกคนหนึ่งที่ทำงานในบริษัทเดียวกันกับคุณนั้น ทำงานคล้ายๆ กัน แถมทำงานเบากว่าด้วย ทำไมเขาถึงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ได้รับการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งเร็วมาก แล้วคุณก็บ่น ด่า คนนั้นว่า เขาคงเลียแข้ง เลียขา เจ้านายดีล่ะสิ ถึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว  หากคุณคิดเช่นนี้ คุณกำลังคิดผิด และทำร้ายตนเองอยู่ครับ

อย่างแรกที่ผมอยากให้คุณทำก็คือ อย่าไปคิดอิจฉา คนที่เขาได้ดีกว่าคุณ เพราะความอิจฉาริษยา ไม่เคยให้ใครก้าวหน้า และได้ดี ให้คุณคิดว่า  คนๆนั้นเขามีอะไรที่แตกต่างจากคุณ ทำไมถึงก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว แล้วคุณค่อยนำวิธีการนั้นมาใช้กับคุณ ทำแบบนี้จะมีประโยชน์มากกว่า

ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะมีสิ่งๆ หนึ่งมาบอกคุณ สิ่งนี้ล่ะครับ ที่นำไปใช้แล้วจะเกิดความก้าวหน้าเกิดขึ้นใน การทำงานของคุณ นั่นก็คือ ” การสื่อสารและบอกให้คนอื่นรับรู้ว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่” นั่นเอง

ทำไมน่ะหรือครับ  ก็คนทั่วๆส่วนมากที่ไม่ได้ก้าวหน้าไปไหนเลย มีความคิดว่า การทำงานหนัก เป็นวิธีการเดียวเท่านั้นในการส่งเสริมความก้าวหน้าให้กับตนเอง ทำงานหนักๆ เข้าไว้ สักวันผู้บังคับบัญชาก็เห็นถึงความพยายาม และเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งให้ ปรับเงินค่าตอบแทนให้ ถ้าคุณมีความคิดแบบนี้ จงเปลี่ยนซ่ะ

” ถ้าคุณไม่พูด หรือสื่อสารในการทำงานของคุณให้คนอื่นๆ ฟัง เขาก็ไม่มีวันที่จะเข้าใจคุณว่าทำงานแบบไหน โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาของคุณ “

อย่างปิดทองหลังพระ มากจนเกินไปครับ เอาออกมาแสดงบ้างครับ มันเป็นวิธีการที่เรียบง่ายน่ะครับ แต่ไม่ค่อยมีคนทำกัน เพราะไม่ได้มีการพูดหรือสื่อสารเรื่องการทำงานของคุณออกไป คุณก็บ่นว่าไม่ก้าวหน้าไปไหนซักที  ก็คุณไม่ได้บอกใครนี่ครับ ว่าคุณทำงานอย่างไร เมื่อคุณไม่พูด แล้วใครจะไปรู้ว่าคุณมุ่งมั่นทำงานมากแค่ไหน  กลับกลายเป็นว่า คนภายนอก หรือคนในบริษัท มองคุณว่า เป็นคุณกอดงาน และแบกรับงานไว้คนเดียว เป็นงั้นซ่ะอีก

ก่อนที่คุณจะท้อแท้ และโกรธ ให้คุณคิด และถามตัวคุณเองก่อนน่ะครับว่า ” คุณได้พยายามให้คนอื่นเข้าใจตนเองหรือยัง  รวมทั้งตัวคุณเองได้ใช้ความพยายามในการทำความเข้าใจคนอื่นบ้างหรือไม่ “

คนอื่นๆ โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาของคุณ ไม่มีเวลามากมายขนาดนั้น มาสังเกตุการทำงานของคุณหรอกครับ หรือต่อให้เขาเห็นการทำงานหนัก และผลงานของคุณ เขาก็ไม่รู้ถึงกระบวนการที่ก่อให้เกิดผลงานนั้นอยู่ดี  คุณเชื่อไหมว่า แม้คนที่นั่งใกล้ๆ กัน เราเองยังไม่รู้ความคิดในหัวของเขาเลย

และเมื่อคนเราเอง ไม่ได้มาสังเกตุ และเห็นพฤติกรรมของใครตลอดทั้งวัน ทั้งคืนได้  เขาจึงจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลเท่าที่เห็น เท่าที่ได้ยิน เท่าที่สัมผัส มาสร้างภาพลักษณ์ ของคนที่เขาสังเกตุเห็นการทำงานนั้น

และโดยเฉพาะการสื่อสารทุกๆ วันนี้ อินเตอร์เน็ต ช่องทางออนไลน์ทั้งหลาย ทำให้สามารถติดต่อสื่อสาร กับคนนอกบริษัท หรือระหว่างบริษัทได้ในเวลาอันรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องออกไปไหนเลย และข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันก็มีการแชร์ หรือส่งต่อไป ทำให้ข้อมูลเกิดขึ้นในวงกว้าง แน่นอนที่หากมีการสื่อสารออกไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้ข้อมูลที่ผิดพลาด หรือเข้าใจผิดสื่อสารออกไปด้วย

ฉะนั้นแทนที่จะให้สื่อเหล่านี้มาทำร้ายคุณในการทำงานหรือหยุดความก้าวหน้าคุณ  ต่อไปนี้หากคุณทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม คุณจะต้องพาเพื่อนร่วมงาน  ผู้บังคับบัญชาของคุณ ไปดูการทำงานจริงของคุณให้เห็นกับตา  ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งครับ ที่มีความคิดว่า การทำงานหนัก คือวิธีการเดียวที่ทำให้ประสบความสำเร็จ  แต่เมื่อผมได้ออกจากกะลา และ ได้มีการสื่อสาร โดยให้เพื่อน และผู้บังคับบัญชา ไปกับผม ดูการทำงานของผมให้เห็นด้วยตา  จนทำให้เพื่อนร่วมงาน รวมถึงผู้บังคัญชายอมรับ  นับจากวันนั้นในการพาเขาไปสัมผัสงานที่เราทำ  ทำให้การทำงานจากว้ันนั้น เป็นไปด้วยความง่ายดาย ไม่กดดัน เนื่องจากเราได้มีการสื่อสารให้ทราบแล้ว

 นับจากนี้ไปคุณจงจำไว้น่ะครับว่า  เมื่อคุณทำงานหนัก ด้วยความทุ่มเทแล้ว ให้สื่อสารให้คนอื่นได้รับทราบด้วย เมื่อเขารู้ข้อมูลอย่างชัดเจนแล้ว เขาเหล่านั้นก็พร้อมจะสนับสนุนไปสู่ตำแหน่ง เงิน และงานในฝันในที่สุด

Tags: , ,

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*