กฎการรับให้มากขึ้น เพื่อจะได้ให้ให้มากขึ้นนั้น ไม่ใช้กฎของความเห็นแก่ได้ หากคุณกำลังคิดว่ากฎดังกล่าวเป็นกฎของคนเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว ล่ะก็ โปรดเปลี่ยนความคิดใหม่ให้เป็นบวกให้มากขึ้น บางครั้งกฎเพื่อการรับก็ไม่ใช้กฎแห่งความโลภ หรือเห็นแก่ได้เสมอไป
หากคุณจะมอบอะไรให้ใคร คุณจะต้องรับมอบของขวัญแห่งความมั่งคั่งเสียก่อน คือคุณต้องมั่งคั่งเสียก่อนถึงจะเกิดการให้ได้ ผมพอจะเดาได้ว่าคุณอาจจะไม่สะดวกในใจที่จะรับโดยมีความคิดที่ว่า ” ฉันไม่คู่ควรที่จะรับมัน ” ” เมื่อรับแล้วจะเป็นหนี้บุญคุณที่จะติดตัวไปตลอดชีวิต “ เป็นต้น ผมขอบอกว่าหากคุณรับอะไร และสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และใสสะอาด คุณสมควรได้รับมัน คุณจงรู้สึกสะดวกใจที่จะรับเสียแต่วันนี้ ฝึกนิสัยแห่งการรับ นิสัยแห่งการรับเป็น ศาสตร์อย่างหนึ่งที่จะนำทางให้คุณได้พบกับความมั่งคั่งของจิตใจ เมื่อใดเมื่อคุณรับมากขึ้น คุณก็จะสามารถให้ผู้อื่นได้มากขึ้นเช่นกัน
การรับทำให้จิตใจเปิดกว้างมากขึ้น และสามารถช่วยหลือผู้อื่นได้มากขึ้น ลองคิดดูสิครับ หากคุณไม่มีปัจจัยใดๆ เลยเช่นเงิน ทอง เสื้อผ้า และสิ่งอื่นๆ ที่คุณมีอยู่ และที่คุณมีอยู่ก็เพียงพอสำหรับคุณเท่านั้น ความรู้สึกขาดแคลนที่เกิดขึ้นในใจ คุณจะสะดวกที่มีใจแห่งการให้หรือไม่ ตอบได้เลยว่าคุณคงไม่มีอารมณ์ที่จะให้ใคร ในเมื่อคุณยังไม่พอเลย และนี่เป็นการบ่มเพาะนิสัยแห่งการขาดแคลนในใจ คุณไม่มีทางมั่งคั่งได้หากคุณยังมีไม่พอ
จงเปิดประตูใจของคุณสู่การรับให้มากขึ้น โดยใช้กุญแจดังต่อไปนี้เพื่อเปิด การรับในจิตใจของคุณ
1. จงบอกกล่าว ” ขอบคุณ ” สำหรับทุกๆสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วในชีวิตของคุณ
คือการรู้สึกสำนึกคุณในสิ่งที่มีอยู่แล้วนั่นเอง คุณจะไม่มีทางได้สิ่งต่างๆ มากขึ้นกว่านี้หากคุณไม่รู้จักสำนึกบุญคุณสิ่งที่คุณมีอยู่ในปัจจุบัน การขอบคุณเป็นการเสริมพลังแห่งการคิดบวกในจิตใจของคุณ คุณสามารถขอบคุณได้ทุกๆ อย่าง ทุกๆ สิ่งไม่ว่าสิ่งที่คุณมี หรือสิ่งที่คุณเป็นอยู่จะเป็นแง่ลบ หรือ แง่บวก เช่น หากคุณยังจนอยู่ไม่มีเงินทอง คุณก็ขอบคุณความจน โดยอาจจะกล่าวว่า ” ขอขอบคุณความจนที่เกิดขึ้นในตัวฉัน ทำให้ฉันรู้ว่าจะต้องตั้งเป้าหมายให้มากกว่านี้เพื่อเป็นคนมั่งคั่งให้ได้ ” หรือคุณอาจจะขอบคุณ รถที่คุณขับทุกๆ วัน เมื่อเจอเจ้านายดุด่าว่ากล่าวแทนที่จะคิดลบ ก็คิดว่า ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่ได้รับ ทำให้จิตใจเข้มแข็งมากขึ้น เป็นต้น
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้คุณคิดก็คือ ยังมีคนบนโลกนี้ที่ไม่ได้รับโอกาสเช่นคุณ บางคนที่อยู่ในบางประเทศ ยังแทบจะไม่ค่อยได้กินข้าว ไม่มีน้ำไฟใช้อย่างสะดวกเหมือนที่คุณใช้อยู่ บางทีไม่มีรถยนต์ใช้งานต้องเดินเท้าไปไหนต่อไหน แต่คุณมีรถยนต์ใช้งานอย่างสะดวกสะบาย แค่คุณคิดแค่นี้ คุณก็สามารถขอบคุณได้เป็นร้อยๆ อย่างแล้ว จงเชื่อเถอะว่าหากคุณสำนึกคุณ ด้วยการเห็นค่าของความมั่งคั่งต่างๆ ที่คุณมีอยู่ พลังนั้นจะมากระตุ้นจิตใจด้านบวกของคุณ ทำให้จิตใจมีเนื้อที่กว้างพอ ที่จะก่อเกิดความอัศจรรย์แห่งการเพิ่มจำนวนในสิ่งที่มีอยู่แล้ว
2. จงร้องขอ
คนที่มั่งคั่งจะมีการร้องขอทุกอย่าง การร้องขอเป็นการเปิดประตูจิตใจของคุณให้ผลักเอาความกลัวออกไป คนที่มั่งคั่งจะร้องขอทุกอย่าง เช่น ขอคำแนะนำ ขอโอกาสใหม่ๆ ขอความรู้ คนที่มั่งคั่งจะร้องขอก่อนคนอื่นจะตอบสนองเสมอ จึงไม่น่าแปลกเลยที่คนมั่งคั่งร่ำรวยนั้นจะได้รับโอกาสมากกว่าคนที่จนกว่าเสมอ ไม่ใช่เพราะดวง แต่พวกเขากล้าที่จะขอในสิ่งที่ผู้อื่นไม่กล้า
จงภาวนากับตนเองว่าคุณต้องการอะไร คิดภาพตามไปด้วย โดยสิ่งที่คุณร้องขอต้องเป็นสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ และเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ ให้คิดเป็นภาพยนตร์ในจิตใจของคุณไปเลย ใช้จินตนาการว่า หากสิ่งที่คุณขอประสบความสำเร็จชีวิตคุณจะเป็นเช่นไร ผมว่าสนุกดี มันไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อน่ะครับ การทำเช่นนี้เป็นการบ่อเพาะความฝันในจิตใจ คือคุณคิดภาพยนตร์ความสำเร็จในใจและขอ มันจะเกิดพลังในจิตของคุณอย่างมหาศาล จนก่อให้เกิดความอัศจรรย์มาแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ ไม่ใช่เรื่องงมงายประการใด
อีกอย่างมันคุ้มค่าที่คุณจะลองไม่ใช้หรือ และมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะเมื่อคุณคิด มันก็เกิดความสุขใจไม่ใช่หรือครับ จงคิดสร้างภาพยนตร์ในใจถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับคุณ เมื่อนั้นจักรวาลจะตอบรับคำขอคุณ และให้ในสิ่งที่คุณต้องการ
>>>>>> ในบทต่อไปผมจะกล่าวถึงความมหัศจรรย์แห่งการให้ คุณจะรู้ว่าการให้ทำให้คุณมั่งคั่งได้อย่างไร โปรดติดตามกันให้ได้
ธวัชชัย สุวรรณสาร
โค้ชพัฒนาศักยภาพบุคคลสู่ความสำเร็จ
081-1689081
Email : coachtawatchai@gmail.com