การพัฒนาตนเอง

บทเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการถูกหลอกให้เสียเงิน เสียความรู้สึก

Rating:

 ผมเพิ่งถูกหลอกให้เสียเงินครับ  เผลอๆเสียความรู้สึกด้วย ทั้งที่ผมเคยถูกหลอกให้เสียเงินแล้วเมื่อไม่นานมานี้ มาคราวนี้ผมก็ยังหลงไปเสียเงินอีก จะโกรธใคร หรือจะโกรธเขาที่หลอกเราก็ไม่เพราะเราเสียรู้เอง

ที่ผมเริ่มต้นด้วยข้อความแบบนี้เนื่องจากผมได้หลงเข้าไปลงทุนกับช่องทางออนไลน์รายหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้วผมก็เพิ่งถูกธุรกิจลักษณะแบบเดิมนี้หลอกเอาเงินผมไปแล้ว มาเมื่อวานนี้ผมก็ยังถูกหลอกอีก ก็เลยมาสงสัยกับตัวเอง และคนที่ถูกหลอกเป็นจำนวนมาก ว่าทำไมทั้งๆ ที่เราเคยถูกหลอกมาแล้ว ยังหลงเดินทางให้เงินเขาเพื่อถูกหลอกอีก ทั้งๆ ที่เจ็บมาแล้ว

ประเด็นคือไม่ใช่ว่าจะโทษใคร หรือต้องการมาระบายความรู้สึกครับ แต่ผมพยายามจะหาคำตอบว่า เพราะอะไรเราถึงถูกหลอกให้เสียเงิน เสียความรู้สึกซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อป้องกันตัวเองในอนาคตไม่ให้ถูกหลอกในลักษณะนี้อีก

 

>>>ผมจึงวิเคราะห์ตามแนวทางของผม และตามที่ศึกษามาพบว่า เหตุผลที่เรายังคงถูกหลอกซ้ำ อยู่อย่างนี้เป็นไปได้ตามเหตุผลดังนี้

     1. เราคิดว่า เรายังขาดแคลนอยู่ ทั้งๆ ที่เรามีอะไรที่เพียงพออยู่แล้ว

เป็นเหตุผลหนึ่งที่สมเหตุสมผลครับ  เหตุที่เรายังคงถูกหลอกซ้ำ หลอกซากอยู่โดยหลงเชื่อ ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งเดิมๆที่หลอกเรามาแล้ว เพราะเราขาดการวิเคราะห์ถึงสิ่งจำเป็นรอบตัว ว่าสิ่งที่เรามีอยู่มันพอเพียงแล้วหรือไม่ เรามีเงินทองเพียงพอ ต่อการเลี้ยงชีพ มีงาน มีอาชีพ หาจุดที่พอเพียงของเราไม่เจอไงครับ จึงขวนขวายอยากมีมากขึ้น ไม่ว่าวิธีนั้นจะถูกต้อง หรือไม่ เป็นไปได้หรือไม่  ทำให้การขวนขวายหาเงินทองที่มากขึ้น โดยใช้เงิน ความโลภเป็นตัวนำ ทำให้เราเสียเงินมากขึ้น ยิ่งว่าเราอยู่เฉยๆ ตามความพอเพียงของเราเสียอีก.  ผมจึงขอบอกว่า เมื่อใดก็ตามที่มีสื่อ ให้เราไปลงทุนโน่น ลงทุนนี่ แล้วได้ผลตอบแทน 10 เท่าบ้าง  100 เท่าบ้าง  ให้เราคิดถึงสิ่งที่มีรอบตัวเรา ว่า เราต้อวการเงินทอง และ ผลตอบแทนขนาดนั้นไหม เราเดือนร้อนแค่ไหน เราก็จะลดความร้อนแรง จากการตัดสินใจอันรวดเร็วของเราลง และมีสติมากขึ้น. หากเราไม่ได้เดือนร้อนอะไรเรื่องเงินขนาดนั้น ก็ให้ลงทุนเฉพาะสิ่งที่ถูกต้องเป็นไปได้ ซึ่งในตลาดมีอยู่มากมายครับ

 2. เพราะมีปัญหาเรื่องต่างๆ (โดยเฉพาะเรื่องเงิน) ทำให้จิตถูกชักจุงโดยอัตโนมัติไปยังตัวช่วยที่รวดเร็วทันใจ

ทุกคนต้องเคยเป็นครับ มีปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเงินเข้ามา จิต และสมองของเรามีสัญชาติญาณการเอาตัวรอดฝังอยู่แล้ว ตามธรรมชาติครับ จิตจะสั่งให้สมองชักจูงหาทางแก้ไขปัญหาให้กับคนๆ นั้นที่ประสบปัญหาอยู่ จิตใต้สำนึกไม่คำนึงหรอกครับว่า แนวทางนั้นจะถูกหรือผิด และรอดได้เป็นพอ. เมื่อพิจารณาดูแล้วเป็นสิ่งที่น่ากลัวน่ะครับ.  แต่เราสามารถชลอ การตัดสินใจต่างๆ ที่ผิดของจิตใต้สำนึกได้ ด้วยการสร้างสติ รู้คิดขึ้นมากแทรกทันทีได้เลย ณ ตอนนั้น คือ. การสูดลมหายใจเข้า และออกยาวๆ. แล้วกล่าวบอกกับตัวเองว่าใจเย็นๆ. การหายใจ เข้าและออกยาวๆ จะเป็นการเพิ่มออกซิเจนในเลือก ในปอด ทำให้สมองเกิดสติ ชลอการตัดสินใจของจิตใต้สำนึกลง.  ถ้าคำกล่าวของศาสนาพุทธก็คือ “สติมา ปัญญาเกิด” พอเกิดสติแล้ว  ก็ให้วิเคราะห์หาข้อมูลในสิ่งที่เราจะตัดสินใจทำนั้น. ดูจากสื่ออินเตอร์เน็ตก็ได้. จากประสบการณ์ที่คนในอินเตอร์เน็ตประสบพบเจอมา. ( ใน Pantip ก็ได้น่ะครับ เพราะมีคนที่ประสบพบเจอเหตุการณ์แบบคุณอยู่มากมาย )  จะทำให้พบแนวทางที่ถูกต้อง ไม่ต้องเจ็บตัวซ้ำแล้วซ้ำอีก

โดยเฉพาะ สิ่งที่หลอกเราครั้งที่ผ่านมา ให้เราจำไว้ว่า สิ่งนี้แหละที่ทำให้เราเจ็บ ให้สัญญากับตนเอง ด้วยการพูดออกมาดังๆ ครับว่า จะไม่กลับไปหาวิธีแบบนี้อีก. ต้องพูดดังๆ ออกมาเท่านั้นน่ะครับ เพราะการพูดดังๆ ออกมาจะเป็นการไปสั่งจิตใต้สำนึก ไม่ให้กลับไปหาสิ่งนี้อีกที่เคยหลอกเรามาแล้ว

ที่สรุปมา ขอออกตัวไว้ก่อนน่ะครับ ว่าเป็นวิธีการตามแนวทางของผมที่ผมใช้. คุณอาจจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ในการระงับจิตใจของตนเอง ถ้าอย่างไร หากใครมีวิธีการที่ดีกว่านี้. ได้ผลสุดยอดกว่านี้ ก็แนะนำ และแชร์กันได้น่ะครับ สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนต่อสู้ กับทุกปัญหาในสภาวะเศรษฐกิจ ที่ตกต่ำเช่นนี้ครับ สติเท่านั้นที่จะทำให้เราก้าวข้ามทุกปัญหาไปได้ครับ

Tags: , ,

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*