คุณเคยทำงานกับคนที่คุณไม่ชอบหน้าเลยไหม? แน่นอนคุณจะรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลยเมื่อต้องพบเขาทุกๆ วัน ยิ่งทำให้รู้สึกเซ็งเข้าไปใหญ่ และที่แย่กว่านั้นคือ คุณทำงานร่วมกันกับเขา อยู่แผนกเดียวกันกับเขาอีก ในที่นี้คุณที่คุณไม่ชอบหน้าอาจจะเป็น เพื่อนๆ พี่ๆ ในที่ทำงาน ที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ คุณที่คุณไม่ชอบหน้านั้นก็คือ ” เจ้านาย ” ของคุณเอง….
แล้วคุณแสดงปฏิกิริยากับคนเหล่านั้นที่คุณเกลียดอย่างไร เดินเลี่ยงไปทางอื่นบ้าง ไม่พูดไม่จากับเขาบ้าง เป็นต้นซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่คุณทำยิ่งเป็นการทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง คุณจะยิ่งสร้างกำแพงขึ้นภายในใจของคุณเอง จนเป็นการปิดกั้นความสุขของคุณเอง ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเขาไม่ได้รับทราบถึงอารมณ์เกลียดที่คุณมีต่อเขา เขายังคงทำงาน และดำเนินชีวิตไปอย่างปกติ ส่วนคุณน่ะหรือ ทุกข์อยู่อย่างนั้น คอยหลบหน้าเขา…..สุดท้ายผลร้ายก็ส่งผลเสียต่อคุณเอง และความเกลียด ความไม่ชอบพอ นี่เองเป็นสิ่งหนึ่งที่คอยจำกัด ศักยภาพในตัวคุณอยู่ คุณไม่มีทางที่จะบรรลุศักยภาพในตัวคุณได้ ไม่มีทางที่จะปล่อยมันออกมาได้ หากคุณยังมีความคิดเกลียด ไม่ชอบอยู่ภายในจิตใจ และสมองของคุณ
วันนี้ผมมีคำแนะนำสำหรับคนที่ต้องทำงานกับคนที่เกลียดและไม่ชอบหน้า อยู่ตลอดเวลามาฝาก ครับเริ่มกันเลย
1. พยายามมองสิ่งที่ดีในตัวของคนที่คุณไม่ชอบหน้า
ต้องมีเรื่องประทับใจระหว่างคุณกับเขาบ้างล่ะนา ที่คุณชอบ ไม่มีใครหรอกครับที่จะมีแต่สิ่งเลวร้ายตลอดเวลา….พยายามคิดถึงสิ่งที่เขาเคยทำให้คุณยกตัวอย่างเช่น เขาปรบมือให้คุณตอนคุณขึ้นรับรางวัล เขาเคยช่วยเหลืองานคุณ เป็นต้น พักเรื่องลบๆ ของเขาเอาไว้ก่อนครับ คิดเรื่องดีๆ ของเขา หากคุณคิดว่าไม่มีเรื่องใดที่เขาเคยทำให้คุณประทับใจเลย ก็ให้คิดถึงบุคลิกที่โดดเด่นของเขาที่คุณชอบ เช่นรอยยิ้มของเขา การเดินของเขา รูปร่างที่ดี หน้าที่ใสสะอาด อะไรก็ได้ที่ดีของเขา แล้วความเกลียดของคุณจะค่อยๆ ลดลง
2. เมื่อพบคนที่คุณไม่ชอบหน้า พยายามอย่าเดินหลบเลี่ยงไปทางอื่น หรือแสดงสีหน้า แววตาที่แสดงว่าคุณไม่ชอบเขา
เป็นหลักการทางจิตวิทยาอย่างหนึ่งคือ เมื่อใดที่คุณหลบหลีกสิ่งที่คุณเกลี่ยดสิ่งนั้น จะเข้ามาหาคุณเรื่อยๆ เป็นกฎแห่งแรงดึงดูดครับ คุณสังเกตไหมครับว่า สิ่งไหนที่คุณเกลียดคุณกลับได้เจอ ได้พบอย่างไม่คาดฝัน แต่สิ่งไหนที่คุณชอบกลับไม่ค่อยพบเจอ เนื่องจากพลังแห่งความเกลียด และความไม่พึงพอใจของมนุษย์ มีอานุภาพมากกว่าความชอบ ความเกลียดเป็นอารมณ์ที่รุนแรงมากกว่าหลายร้อยเท่า ดังนั้นคุณจงเผชิญหน้ากับเขา ยิ้มให้เขา อภัยในทุกสิ่งที่เขาเคยทำให้คุณเจ็บมา…ไม่มีความผิดไหนที่ให้อภัยไม่ได้ครับ หากคุณทำได้ กล้าเผชิญหน้าเขา ทักเขาด้วยความรัก และเป็นมิตร ชีวิตคุณจะสุขขึ้นอีกเยอะเลยครับ เชื่อผม…
3. ให้คุณจินตนาการหน้าของเขา บุคลิกของเขาให้เป็นสิ่งที่ตลก ขำขัน แบบหลุดโลกไปเลย…
เช่น ให้คุณหลับตาคิดภาพเขาให้ตลกเข้าไว้ เช่นจินตนาการว่า เขาใส่วิกหัวหยิก ทาลิปสติกหนาเตอะ ใส่ชุดทูพิช ใส่รองเท้าแตะ และมีรูปร่างอ้วนๆ คุณจะหัวเราะ ขำๆ สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ความเกลียดของคุณลดลงไปได้มาก ยิ่งคุณคิดนึกภาพเกี่ยวกับเขาหลุดโลกมากเท่าใด ทำให้คุณตลกมากเท่าใด ความเกลียด ความไม่ชอบก็จะลดลงมาก…ไม่มีใครที่เกลียดในสิ่งที่ตลก ขำขันได้หรอกครับ ลองนำไปใช้ดู แต่อย่าหัวเราะบ่อยๆ ให้คนอื่นเห็นน่ะครับ เดี๋ยวเขาจะว่าเราบ้า คิดเองหัวเราะกับตนเองดีกว่า
ชีวิตของเรามันสั้นครับ จะเกลียด จะโมโหกันไปทำไมหันมาทำความเข้าใจกัน ไม่ชอบลักษณะนิสัยอะไรของอีกฝ่ายก็พูด คุยกันตรงๆ ผมเชื่อว่ามนุษย์เรามีเหตุผลพอที่จะรับฟังเหตุผล มาให้อภัยกันเถอะครับ การให้อภัยเป็นการให้ของเขาแก่ตนเองที่ดีมากอย่างหนึ่ง…แล้วคุณจะสังเกตุว่าเมื่อใดที่คุณให้อภัย คุณจะมีความสุขทางใจอย่างไม่เคยมีมาก่อนทีเดียว
นายธวัชชัย สุวรรณสาร
ที่ปรึกษาและโค้ชด้านการปลุกศักยภาพบุคคล
086-6593823