จิตวิทยาองค์กร

“พนักงานลาออกถี่ ทำอย่างไรดี?” กลยุทธ์แก้ไข ดึงใจพนักงาน อยู่ต่ออย่างมีความสุข

Rating:

ฝันร้ายขององค์กร “พนักงานลาออก”! กลยุทธ์ฉลาด ดึงใจคนเก่ง สู่ความสำเร็จ

        ในยุคสมัยที่การแข่งขันในธุรกิจทวีความรุนแรง องค์กรต่างๆ ต่างมุ่งมั่นแสวงหา ดึงดูด รักษา และพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมาย

      แต่ทว่า “ปัญหาการลาออกของพนักงาน” กลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ต้นทุน และภาพลักษณ์ขององค์กร

     พนักงานเปรียบเสมือนฟันเฟืองสำคัญ ขับเคลื่อนกลไกองค์กรให้หมุนไปอย่างราบรื่น การสูญเสียพนักงานที่มีความสามารถ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน องค์กรต้องเสียเวลา ทรัพยากร ในการสรรหา ฝึกอบรม พนักงานใหม่

     ยิ่งไปกว่านั้น ยังส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพนักงานที่เหลือ เกิดความกังวล ไม่มั่นคง และอาจนำไปสู่การลาออกตามกัน

     บทความนี้ ผมจะมุ่งนำเสนอแนวทางการจัดการกับปัญหาการลาออกของพนักงาน

     เพื่อช่วยให้องค์กรของคุณสามารถรักษาคนเก่ง ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถ และก้าวสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

 

 เนื้อหาของบทความนี้ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้:

  • 1. เข้าใจสาเหตุของการลาออก: เจาะลึกปัจจัยเบื้องหลังที่ทำให้พนักงานตัดสินใจลาออก
  • 2. กลยุทธ์การรักษาพนักงาน: นำเสนอแนวทางปฏิบัติที่ชาญฉลาด ดึงใจคนเก่ง อยู่กับองค์กรยาวนาน
  • 3. บทสรุป: รวบรวมประเด็นสำคัญ และแนวทางการนำไปใช้จริง

      ด้วยเนื้อหาที่ครบถ้วน ตรงประเด็น และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

        บทความนี้จะเป็นคู่มือสำคัญ ช่วยให้องค์กรของคุณสามารถจัดการกับปัญหาการลาออกของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ. พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จ ควบคู่ไปกับบุคลากรที่มีคุณภาพ เอาละครับเรามาเร่ิมกลยุทธ์การรักษาพนักงานที่เรารักกันดีกว่าครับ

1. เข้าใจสาเหตุของการลาออก: ปลดล็อกกุญแจสู่การรักษาคนเก่ง

      การเข้าใจสาเหตุของการลาออก เปรียบเสมือนการไขกุญแจสู่การรักษาคนเก่ง องค์กรที่สามารถเข้าใจความต้องการ แรงจูงใจ และปัญหาของพนักงาน

สามารถออกแบบกลยุทธ์ที่ตรงจุด ดึงดูดใจพนักงานให้ทุ่มเท ทำงานอย่างมีความสุข และอยู่กับองค์กรยาวนาน

ปัจจัยหลักๆ ที่มักเป็นสาเหตุของการลาออก มีดังนี้:

1.1 เงินเดือน ค่าตอบแทน และสวัสดิการ:

  • พนักงานรู้สึกว่าเงินเดือน โบนัส และสวัสดิการไม่เพียงพอ ไม่สอดคล้องกับทักษะ ประสบการณ์ และผลงาน
  • เปรียบเทียบกับองค์กรอื่นแล้ว เงินเดือน ค่าตอบแทน และสวัสดิการที่ได้รับ ไม่น่าดึงดูดใจ

ตัวอย่าง:

บริษัท A พนักงานทั่วไป เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท ไม่มีโบนัส สวัสดิการมีแค่ประกันสังคม

บริษัท B พนักงานทั่วไป เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 บาท มีโบนัส สวัสดิการมีประกันสังคม ประกันสุขภาพ ที่พักอาศัย อาหารกลางวัน

พนักงานที่มีความสามารถ ย่อมมองหาโอกาสที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า

1.2 ภาระงานหนัก ความเครียดสูง:

  • พนักงานทำงานหนัก ไม่มีเวลาพักผ่อน ขาดการสนับสนุนจากหัวหน้างาน ส่งผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต และความสัมพันธ์ในองค์กร
  • งานซ้ำซาก ไม่มีความท้าทาย
  • ขาดการแบ่งงาน พนักงานคนเดียวต้องรับผิดชอบงานหลายอย่าง

ตัวอย่าง:

คุณพนักงานทำงานในบริษัทขายสินค้าออนไลน์ ต้องรับผิดชอบทั้งการตอบแชทลูกค้า แพ็คสินค้า จัดส่งสินค้า ทำงานตั้งแต่ 8.00 น. – เที่ยงคืน ไม่มีวันหยุด

พนักงานที่ทำงานหนัก เผชิญกับความเครียดเป็นเวลานาน ย่อมส่งผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต และประสิทธิภาพการทำงาน

1.3 ขาดโอกาสในการเติบโตและพัฒนา:

  • พนักงานไม่มีโอกาสเรียนรู้ทักษะใหม่ ไม่มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ รู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้
  • องค์กรไม่สนับสนุนให้พนักงานพัฒนาศักยภาพ
  • ขาดโอกาสในการเรียนรู้ อบรม สัมมนา

ตัวอย่าง:

คุณพนักงานทำงานในบริษัทไอที ทำงานมา 5 ปี ตำแหน่งเดิม เงินเดือนเดิม ไม่มีโอกาสก้าวหน้า

พนักงานที่มุ่งมั่นพัฒนาตัวเอง ย่อมต้องการโอกาสในการเรียนรู้ เติบโต และก้าวหน้าในสายอาชีพ

1.4 ปัญหาการสื่อสารและความสัมพันธ์:

  • พนักงานขาดการสื่อสารที่ดีกับหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน เกิดความขัดแย้ง เข้าใจผิด
  • วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานเป็นทีม
  • หัวหน้างานไม่เอาใจใส่ ไม่รับฟังความคิดเห็น

ตัวอย่าง:

คุณพนักงานทำงานในบริษัทรับสร้างบ้าน หัวหนางานมักตำหนิ ติเตียน ไม่เคยให้กำลังใจ

ปัญหาการสื่อสาร ความสัมพันธ์ที่ไม่ดี ส่งผลต่อบรรยากาศการทำงาน และความพึงพอใจของพนักงาน

1.5 สภาพแวดล้อมการทำงานไม่ดี:

  • สถานที่ทำงานไม่สะดวกสบาย ปลอดภัย
  • ระบบงานล้าสมัย
  • ขาดกิจกรรมสร้างเสริมขวัญกำลังใจ

ตัวอย่าง:

พนักงานออฟฟิศ ต้องทำงานในห้องที่แออัด ไม่มีอากาศถ่ายเท คอมพิวเตอร์เก่า ช้ามาก

 

2. กลยุทธ์การรักษาพนักงาน: ดึงใจคนเก่ง อยู่กับองค์กรยาวนาน

      การรักษาพนักงานที่มีความสามารถ เปรียบเสมือนการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย ประหยัดต้นทุน และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

บทความนี้ นำเสนอกลยุทธ์การรักษาพนักงานที่ชาญฉลาด แบ่งเป็น 5 หัวข้อย่อย ดังนี้:

2.1 ปรับปรุงระบบการจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการ:

  • ทบทวนระบบเงินเดือน: วิเคราะห์ข้อมูลเงินเดือนในตลาด ทักษะ ประสบการณ์ และผลงานของพนักงาน ปรับเงินเดือนให้เหมาะสม
  • เสนอโบนัสและค่าตอบแทนเพิ่มเติม: จ่ายโบนัสตามผลงาน ค่าล่วงเวลา ค่าประกัน
  • มอบสวัสดิการที่ตรงใจ: เสนอสวัสดิการที่หลากหลาย เช่น วันลาพักร้อน วันลาป่วย ประกันสุขภาพ ที่พักอาศัย อาหารกลางวัน
  • ตัวอย่าง: บริษัทแห่งหนึ่งปรับระบบเงินเดือนให้สอดคล้องกับทักษะและประสบการณ์ของพนักงาน จ่ายโบนัสตามผลงาน มอบประกันสุขภาพให้กับพนักงานและครอบครัว จัดหาอาหารกลางวันฟรี และมีสวนหยุดพักผ่อนสำหรับพนักงาน

2.2 ลดภาระงาน จัดการความเครียด:

  • วิเคราะห์งานและกระจายงานอย่างเหมาะสม: มอบหมายงานตามทักษะและประสบการณ์ของพนักงาน หลีกเลี่ยงการให้พนักงานทำงานหนักเกินไป
  • สนับสนุนให้พนักงานมีเวลาพักผ่อน: ส่งเสริมให้พนักงานใช้สิทธิลาพักร้อน ลาป่วย
  • จัดกิจกรรมผ่อนคลาย: จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิต เช่น เล่นกีฬา ฝึกโยคะ นั่งสมาธิ
  • อบรมเกี่ยวกับการจัดการความเครียด: สอนเทคนิคการผ่อนคลาย การจัดการอารม์

        ตัวอย่าง : บริษัทแห่งหนึ่งจัดสรรเวลาให้พนักงานทำงานจากบ้าน 2 วันต่อสัปดาห์ จัดกิจกรรมกีฬาหลังเลิกงาน และอบรมเกี่ยวกับการจัดการความเครียด

2.3 ส่งเสริมโอกาสในการเติบโตและพัฒนา:

  • จัดโปรแกรมฝึกอบรม: พัฒนาศักยภาพ ทักษะ ความรู้ ของพนักงาน
  • สนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้สิ่งใหม่: เข้าร่วมสัมมนา กิจกรรมต่างๆ
  • เปิดโอกาสให้พนักงาน เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ: รับผิดชอบงานใหม่
  • ให้คำปรึกษา: สนับสนุน แนะนำ พนักงานอย่างใกล้ชิด

       ตัวอย่าง: บริษัทแห่งหนึ่งจัดโปรแกรมฝึกอบรมพนักงานใหม่ สนับสนุนให้พนักงานเข้าร่วมสัมมนาและกิจกรรมต่างๆ เปิดโอกาสให้พนักงาน thăng tiến และมีระบบให้คำปรึกษาพนักงาน

2.4 ปรับปรุงการสื่อสารและความสัมพันธ์:

  • ส่งเสริมการสื่อสาร: เปิดใจรับฟังความคิดเห็น สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน
  • จัดกิจกรรมสร้างทีม: เสริมสร้างความสามัคคี
  • จัดการความขัดแย้ง: ปัญหาภายในองค์กรอย่างรวดเร็ว ยุติธรรม โปร่งใส

      ตัวอย่าง: บริษัทแห่งหนึ่งจัดประชุมพนักงานทุกเดือน เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ จัดกิจกรรมสร้างทีม เช่น ทัศนศึกษา งานเลี้ยงสังสรรค์ และมีระบบการร้องเรียนสำหรับพนักงาน

2.5 ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน:

  • พัฒนาสถานที่ทำงานให้สะดวกสบาย: ปลอดภัย
  • ปรับปรุงระบบงาน: ให้ทันสมัย ใช้งานง่าย

 

3. บทสรุป: ก้าวสู่ความสำเร็จ ควบคู่ไปกับพนักงานที่มีความสุข

      ปัญหาการลาออกของพนักงาน เปรียบเสมือนมะเร็งร้าย คุกคามความสำเร็จขององค์กร ฉะนั้นใน 2 ข้อที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ปัญหา  การกำหนดกลยุทธ์การรักษาคน  แม้จะกำหนดอย่างสวยหรู แต่ไม่ได้มีการนำไปใช้ก็เปล่าประโยชน์

       ดังนั้นคุณจึงต้องนำไปปรับใช้ทันทีในทุกสิ่งที่คุณได้คิด ได้กำหนดกลยุทธ์รักษาคนมา ไม่ใช่คิดแต่เพียงว่า “คนลาออก ก็หาใหม่ ก็จบ”  ผมว่านี่เป็นความคิดที่มักง่าย ใช่ครับ เมื่อมีคนออก ก็ต้องหาใหม่ แต่หากปล่อยไปโดยไม่รู้สาเหตุของการลาออก ปล่อยผ่านไป  จะส่งผลต่อขวัญกำลังใจ ของพนักงานที่ทำงานอยู่ เกิดปรากฎการณ์ “โดมิโนการลาออก” เป็นวงกว้าง ซึ่งอาจจะยากต่อการควบคุม

       จำไว้ว่า การรักษาพนักงาน พนักงานทำงานด้วยความสุข มีการลาออกน้อย แสดงถึงองค์กรที่น่าอยู่มีคุณภาพ อันนำมาซึ่งความก้าวหน้าขององค์กร ธุรกิจอย่างยั่งยืน

ตัวอย่าง:

  • บริษัทแห่งหนึ่งวิเคราะห์สาเหตุการลาออกของพนักงาน พบว่าพนักงานลาออกเพราะเงินเดือนน้อย สวัสดิการไม่เพียงพอ บริษัทจึงปรับขึ้นเงินเดือน เพิ่มสวัสดิการ เช่น ประกันสุขภาพ ที่พักอาศัย อาหารกลางวัน
  • บริษัทแห่งหนึ่งมีภาระงานหนัก พนักงานทำงานล่วงเวลาบ่อย บริษัทจึงกระจายงาน จ้างพนักงานเพิ่ม สนับสนุนให้พนักงานใช้วันลาพักร้อน ลาป่วย จัดกิจกรรมผ่อนคลาย
  • บริษัทแห่งหนึ่งมีโปรแกรมฝึกอบรมพนักงาน ส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้สิ่งใหม่ เข้าร่วมสัมมนา กิจกรรมต่างๆ เปิดโอกาสให้พนักงานเรียนรู้ และ รับผิดชอบงานใหม่
  • บริษัทแห่งหนึ่งส่งเสริมการสื่อสาร เปิดใจรับฟังความคิดเห็น สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน จัดกิจกรรมสร้างทีม เสริมสร้างความสามัคคี
  • บริษัทแห่งหนึ่งพัฒนาสถานที่ทำงานให้สะดวกสบาย ปลอดภัย มีระบบปรับอากาศ แสงสว่าง เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ ที่ทันสมัย

ปัญหาการลาออกของพนักงาน เปรียบเสมือนอุปสรรคขวางกั้นความสำเร็จขององค์กร

      บทความนี้ได้นำเสนอแนวทางการจัดการกับปัญหาการลาออกของพนักงาน มุ่งหวังให้องค์กรต่างๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับบริบทขององค์กร เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ดึงดูด รักษา และพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ ก้าวสู่ยุคใหม่ขององค์กรไร้ปัญหาการลาออก พนักงานมีความสุข องค์กรประสบความสำเร็จ

     อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุด คือ “ความใส่ใจ” ที่คุณต้องมีต่อพนักงานขององค์กร

**องค์กรควรใส่ใจพนักงาน เข้าใจความต้องการ ปัญหา อุปสรรค

**พร้อมให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ พัฒนา

**สร้างแรงจูงใจ สร้างความผูกพัน

**พนักงานที่รู้สึกถึงคุณค่า ได้รับการดูแล ใส่ใจ

      ย่อมทุ่มเท ทำงานอย่างเต็มที่ และอยู่กับองค์กรยาวนาน โปรดจำไว้ว่า “การลงทุนในพนักงาน เปรียบเสมือนการลงทุนในอนาคต”

      องค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนา ดูแล ใส่ใจ พนักงาน ย่อมประสบความสำเร็จ ควบคู่ไปกับบุคลากรที่มีความสุข และพร้อมก้าวสู่เป้าหมายอย่างมั่นคง อย่างแน่นอนครับ

 

Tags: , ,

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*