ปลุกพลังแห่งผู้นำ

ผู้นำยุคใหม่หมดยุคของการสั่งการแบบเผด็จการแล้ว ทำไมน่ะหรือ?

Rating:

“ทำงานนี้ให้หน่อยสิคุณ”  “ต้องทำงานนี้ให้ผมตอนนี้เลย”   คุณเคยสั่งงานแบบนี้ไหม อย่าบอกว่าไม่เคยน่ะครับ ในฐานะที่คุณเป็นหัวหน้า คุณต้องเคยบ้างล่ะ แล้วผลที่ได้เป็นอย่างไร  ลูกน้องทำหน้าเบ้ ไม่เต็มใจทำงานให้คุณ รำคาญแต่ไม่กล้าพูด  อย่าว่าแต่ลูกน้องของคุณเลยครับ แม้แต่ตัวคุณเองก็เช่นกัน หากคุณเจอสั่งแบบนี้ ก็ต้องไม่พอใจกันบ้างล่ะ

 

ผมกำลังจะบอกว่าหมดยุคของผู้นำ หรือหัวหน้างานที่ต้องสั่งการแบบสมัยโบราณแล้วครับ การสั่งการงานแบบเผด็จการเป็นภาวะผู้นำที่โบราณมากๆ  เป็นการกระทำที่มุ่งจะถดถอยความสามารถ และความกระตือรือร้นของลูกน้องของคุณ และคำว่าการสั่งการ ไม่ได้จำกัดเฉพาะลูกน้องของคุณเท่านั้น  คนรอบตัวคุณคุณอาจจะใช้วิธีการสั่งการ แบบนี้ไปโดยไม่รู้ตัว  แล้วคุณสังเกตุไหมว่า คนไหนก็ตามที่คุณใช้การสั่งลักษณะนี้ออกไป เคยได้รับความเต็มใจในการทำงานให้คุณไหม คำตอบคือ  ” ไม่มีทาง”   แม้กระทั่งสุนัขที่บ้านคุณหากคุณบังคับมัน มันก็ไม่ทำให้เช่นกัน

 

สาเหตุเกิดจากอะไรน่ะหรือ?  ก็เพราะว่าคนที่คุณสั่งนั้น ไม่เข้าใจว่า ทำไมตนต้องทำงานนั้นน่ะสิครับ

คุณจำเป็นอย่างมากในฐานะผู้นำ และหัวหน้างาน ต้องอธิบายให้ลูกน้องเข้าใจว่า ทำไมเขาต้องทำสิ่งนั้น ทำไมต้องทำข้อมูลอันนี้ด่วน ทำไมต้องทำเอกสารชุดนี้   มันสำคัญอย่างไรกับตัวเขา มันสำคัญอย่างไรกับองค์กร  เขาจะมีความรู้สึก ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่คุณสั่งโดยไม่ได้บอกสาเหตุและความจำเป็นที่ต้อง

คุณจำไว้ว่า มนุษย์ทุกๆ คนไม่ชอบถูกบังคับ โดยที่ไม่มีเหตุผล  ลูกน้องของคุณไม่ใช่หุ่นยนต์ที่คุณคอยป้อนโปรแกรมให้เขาน่ะครับ  คุณจะต้องไม่ปฏิบัติหรือสั่งการลูกน้อง แบบ   รับคำสั่ง  เพียงอย่างเดียว   คุณต้องบอกถึงความจำเป็นที่เขาต้องทำงานนี้   เมื่อนั้นเขาจะมีพลังในการทำงานด้วยความกระตือรือร้น ด้วยความเต็มใจ และด้วยความเอาใจใส่  ดีกว่าที่คุณดุด่าเป็นไหนๆ    ผลจากการวิจัยหลายๆ ที่บอกว่า การที่คุณสั่งการเพียงอย่างเดียวโดยไม่บอกเหตุผล หรือความจำเป็น ความสำคัญให้เขาทราบ  ผู้รับคำสั่งจะทำงานชิ้นนั้นให้เสร็จๆ ไป และไม่ช่วยเหลืองานของคุณอีก  ยกเว้นแต่คุณสั่งเท่านั้นซึ่งเขาจะทำโดยไม่เต็มใจ   แต่ถ้าหากคุณบอกถึงความจำเป็นในการทำงานชิ้นนั้นให้เขาทราบ  เขาจะเต็มใจ และพร้อมที่จะสอบถามเพื่อช่วยเหลืองานคุณต่อๆ ไป โดยที่คุณไม่ต้องถาม หรือสั่งการมาก

 

แล้วคุณจะเลือกแบบไหนล่ะครับ ที่จะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน?  คำตอบอยู่ที่คุณแล้วครับ

 

ฉะนั้น เวลาที่คุณสั่งงาน  เอาอย่างงี้ดีกว่า ผมจะใช้คำว่า มอบหมายงาน  แทนก็แล้วกันครับ   เมื่อคุณมอบหมายงานให้กับลูกน้องทำแล้ว คุณควรบอกลูกน้องด้วยว่า งานนี้ต้องนำเสนอใคร  มีความสำคัญอย่างไร มีวัตถุประสงค์อะไร  และต้องส่งภายในเมื่อไหร่  สำคัญมากน้อยแค่ไหน  เป็นงานเร่งด่วน หรือไม่ต้องรีบมากมาย   เพราะหากคุณไม่บอกเลย  ผู้รับมอบหมายงาน  ก็จะไม่ทราบหรอกครับ  และที่สำคัญคือ จะให้งานมีผลงานออกมาในระดับไหนกันแน่

 

ขอเน้นน่ะครับว่า ” คุณต้องไม่ใช่ว่าจะสั่งงานให้ลูกน้องทำอย่างเดียวแบบเผด็จการ  แต่คุณต้องบอก อธิบาย ชี้แจงให้ลูกค้าเข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยว่า   ทำไมต้องทำ ”   ได้ผล และได้ใจลูกน้องกว่าเยอะเลยครับ

 

ข้อเสียหนึ่งของการที่คุณไม่แจ้งเหตุผลในการ มอบหมายงานให้ลูกน้องคุณทราบ งานจะออกมาแบบไม่มีคุณภาพ ไร้แก่นสาร เพราะลูกน้องคุณจะมัวแต่ใส่ใจในเรื่อง เนื้องานที่ไม่เป็นเรื่อง บางทีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็เอามาคิดทำให้เสียเวลามากกว่าเดิม  หรือเอาแต่พิจารณาอยู่นั่นแหละ เพราะลูกน้องกลัวคุณตำหนิ หรือด่า เผลอเข้างานด่วนจะเป็นงานช้า ไปเลย  ฉะนั้น หากคุณสั่งการ หรือมอบหมายงานไปแล้วเกิดความผิดพลาดร้ายแรงเกิดขึ้น คุณไม่ต้องโทษใครน่ะครับ   เป็นความผิดของคุณเองที่คุณไม่ยอมอธิบายลักษณะงาน ความเป็นมา ความจำเป็นของงานให้ลูกน้อง หรือผู้รับมอบหมายงานให้ทราบ

 

การสั่งงาน มอบหมายงานที่ถูกต้องในลักษณะข้างต้นที่กล่าวมา ถือว่าเป็นการสั่งงาน โดยการใช้ภาวะผู้นำที่แท้จริง ผู้นำไม่ใช่มาจากตำแหน่งอันสูงส่ง โก้หรู แต่เป็นภาวะที่อยู่ภายในจิตใจ  ภาวะที่เข้าใจในความเป็นมนุษย์ เช่นกันกับที่คุณเป็นครับ

Tags: , , , , , , ,

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*