ปลุกพลังแห่งผู้นำ

ปัญหาสาหัสแค่ไหนคุณก็ผ่านได้ หากคุณมีนิสัยแบบนี้

Rating:

 ผู้นำ หรือใครก็ตามต้องเจอกับปัญหาในงาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเบาๆ จนถึงหนักหนาสาหัส แบบต้องปวดหัวกันเลยทีเดียว แต่เจ้าปัญหาที่พบเจอนี่แหละครับ จะเป็นบทพิสูจน์ว่า คุณมีภาวะผู้นำแค่ไหน และการแก้ไขปัญหาก็เป็นปัจจัยหลักที่จะเป็นตัวพิจารณาในการเลื่อนตำแหน่ง เป็นการแสดงผลงาน เพราะเขาจ้างคุณมาเพื่อมาแก้ปัญหา มาพบเจอปัญหา ฉะนั้น การแก้ไขปัญหาจึงเป็นปัจจัยหลักๆ เลยในการชี้ชะตาอนาคตความก้าวหน้าในอาชีพการงานของคุณ ไม่ว่าคุณจะทำงานประจำ หรืองานอิสระอะไรก็ตาม

 

แต่แน่นอน เราจะมีวิธีการรับมือกับปัญหาต่างๆ กันไป บางคนอาจจะยืนหยัดเพื่อสู้กับปัญหา แต่บางคนเลือกที่จะให้ผู้อื่นมาแก้ไขปัญหาให้  ซ้ำหากหนักไปกว่านั้นบางคนก็หนีปัญหาบอกปัดความรับผิดชอบไปเลย แถมยังไม่พออ้างว่าเป็นความคิดคนนั้น ความผิดคนนั้ ผลว่าอย่างหลังนี้แหละครับ เป็นปัญหาที่สุด และไม่เหมาะกับการที่องค์กรจะฝากอนาคตไว้เลยครับ

แถมผมจะบอกอีกอย่างหากคุณมีการแก้ไขปัญหาที่ดี มีนิสัยที่ดีในการแก้ไขปัญหา คุณจะมีคนคอยให้ความช่วยเหลือ เป็นที่นับถือ ที่ทุกๆคนอยากเข้าใกล้ และอยากจะปรึกษาปัญหาด้วย เมื่อคุณได้รับความไว้วางใจจากทุกๆ คน โดยเฉพาะจากเจ้านาย หรือลูกค้าของคุณ ความก้าวหน้าจะไปไหนเสีย

 เมื่อคุณรู้ว่าการแก้ไขปัญหามีข้อดีเช่นนี้แล้ว วันนี้ผมมีนิสัย ที่คุณหากต้องการมีความเป็นผู้นำต้องมีเมื่อพบเจอกับปัญหา ซึ่งคุณสามารถสร้างนิสัยนี้ได้ไม่ยากเลยครับ เอาหล่ะเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

 1. เมื่อเกิดปัญหา ให้มีความรับผิดชอบ อย่าปัด หรือโบ้ยความผิดให้ผู้อื่น

เมื่อเกิดปัญหาในความรับผิดชอบของคุณคุณต้องเผชิญปัญหา อย่าไปโทษสภาพแวดล้อม ว่าเป็นเพราะนั่น เป็นเพราะนี่ ระวังจะติดเป็นนิสัยน่ะครับ นิสัยความรับผิดชอบต่อปัญหาที่แหล่ะครับ ที่คุณต้องมีเมื่อเจอปัญหา ไม่แต่เฉพาะปัญหาในความรับผิดชอบของคุณอย่างเดียวน่ะครับ  ปัญหาที่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของคุณ คุณก็ควรจะเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาด้วย และการมีส่วนร่วมกับการแก้ไขปัญหาที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับตัวคุณนั่นแหละ เป็นสิ่งที่จะสร้างความก้าวหน้าเป็นอย่างดีเลยดีเดียว  ผมเน้นน่ะครับ ปัญหาที่ไม่ได้อยุ๋ในความรับผิดชอบของคุณ คุณควรแค่เสนอวิธีหรือแนวทางแก้ไข ไม่ใช่ให้คุณลงไปเล่นแก้ไขปัญหานั้นเอง เดี๋ยวคุณจะเอาแต่แก้ไขปัญหาให้คนอื่น จนงานคุณไม่ได้ทำน่ะครับ เตือนไว้ก่อน

 2. วิเคราะห์ดูว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคุณสามารถที่จะแก้ไขได้หรือไม่ หากปัญหาเกิดจากปัจจัยที่คุณไม่สามารถแก้ไขได้ควรที่จะปล่อยวางซ่ะครับ

ปัญหามีอยู่ 2 ประเภทครับ คือปัญหาที่สามารถวิเคราะห์แก้ไขได้ กับปัญหาที่ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ ปัญหาที่คุณไม่สามารถแก้ไขได้เช่นอะไร  เช่น ปัญหาเลิกจ้างพนักงานของแผนกคุณที่เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบต่อผลประกอบการของบริษัท ทำให้ผู้บริหารระดับสูงต้องเลิกจ้างพนักงาน เป็นต้น ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ คุณคิดยังไงก็ไม่สามารถแก้ไขได้หรอกครับ เพราะเกิดจากผู้บริหารระดับสูงตัดสินใจ คุณก้าวก่ายไม่ได้  หากเป็นปัญหาในงานที่สามารถแก้ไขได้ เช่น การวางกลยุทธ์การขาย การทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายให้บริษัท   การลดปัญหาการผลิตสินค้าผิดแบบ เป็นต้น  คุุณควรมุ่งให้กับปัญหาที่คุณแก้ไขได้ ดีกว่าไปปวดหัวกับปัญหาที่คุณแก้ไขไม่ได้ครับ

      3. เปลี่ยนคำว่า “จะ”  เป็น “ทำ” ซ่ะ

คนส่วนมากเลยครับเมื่อเจอปัญหาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเร่งด่วน มากแค่ไหนก็ตามจะติดนิสัย มีคำว่า “จะ” ไว้ในใจเช่น ” ว่าจะทำอยู่เหมือนกัน”  “ฉันจะแก้ไขปัญหานี้น่ะ รอหน่อยหนึ่ง”  สุดท้ายปัญหานั้นก็ลุกลามใหญ่โต ไปเกินกว่าจะแก้ไขได้  ฉะนั้นผมอยากให้คุณตัดคำว่า “จะ” ทิ้งไปเลย  ให้เปลี่ยนเป็นคำว่า “ทำ” ซ่ะในจิตใจของคุณ  และต้องทำเดี๋ยวนี้ด้วย เป็นคำคิดในใจ จะฝึกนิสัยในการปฏิบัิติ และแก้ไขปัญหาได้ในทันที ปัญหาก็จะไม่ลุกลามต่อจนยากจะแก้ไขได้

       4. จงกล้าหาญ

เผชิญกับปํญหาด้วยความตั้งใจ ไม่ยอมแพ้  กล้าหาญที่จะแก้ไขปัญหานั้นซ่ะครับ  หากคุณยังมีนิสัยที่ไม่กล้าที่จะเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา จงคิดให้น้อยลง เพราะการคิดมาก ซ้ำซ้อนเกินไป จะทำให้เกิดความลังเล ความกลัวในจิตใจ และสุดท้ายก็ไม่ได้แก้ไขปัญหาซักที กลัวนั่น กลัวนี่   เคล็ดลับ คุณจง “ทำทั้งๆที่คุณกลัว”  ที่แหละเป็นวิธีการแก้ไขนิสัยความขลาดกลัว ได้ดีที่สุด จงจำไว้ว่า “ชีวิตคุณไม่มีเวลาให้กับความขลาดความกลัว คุณต้องกล้าพุ่งชน และเผชิญหน้าเท่านั้น”

 

ลองปลุกฝังนิสัยของการแก้ไข และเผชิญปัญหาทั้ง 4 ข้อนี้ไว้เป็นนิสัยของคุณครับ แรกๆ อาจจะยากหน่อย แต่พอทำแล้วมันคุ้มค่าแน่นอนครับ

 

Tags: , ,

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

*